Page 135 - นิติวิทยาศาสตร์
P. 135

๑๒๘




                                                       หนา  ๓๗
              เลม  ๑๓๓  ตอนที่  ๑๐๗  ก            ราชกิจจานุเบกษา                   ๒๐  ธันวาคม  ๒๕๕๙



              หรือตํารวจหรือพนักงานเจาหนาที่ และไดปฏิบัติครบถวนตามระเบียบขอบังคับเพื่อควบคุมการบําบัด
              รักษาและระเบียบวินัยสําหรับสถานพยาบาลตามมาตรา ๗ (๑๕) จนไดรับการรับรองเปนหนังสือจาก

              ผูอํานวยการหรือหัวหนาสถานพยาบาลนั้น ใหพนจากความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว แตทั้งนี้
              ไมรวมถึงกรณีความผิดที่ไดกระทําภายหลังการสมัครใจเขารับการบําบัดรักษา

                          การรับเขาบําบัดรักษาในสถานพยาบาลตามวรรคหนึ่ง ใหเปนไปตามหลักเกณฑ
              และวิธีการที่คณะกรรมการกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
                          มาตรา ๑๕๖  ผูใดทําการบําบัดรักษาผูติดวัตถุออกฤทธิ์เปนปกติไมวาโดยวิธีใด

              ซึ่งมิไดกระทําในสถานพยาบาลตามที่กําหนดไวในพระราชบัญญัตินี้ ไมวาจะไดรับประโยชนตอบแทน
              หรือไม ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตหกเดือนถึงสามป และปรับตั้งแตหาหมื่นบาทถึงสามแสนบาท

                          มาตรา ๑๕๗  บรรดาวัตถุออกฤทธิ์ เครื่องมือ เครื่องใช ยานพาหนะหรือทรัพยสินอื่น
              ซึ่งบุคคลไดใชในการกระทําความผิดหรือไดมาโดยการกระทําความผิดเกี่ยวกับวัตถุออกฤทธิ์ตาม
              พระราชบัญญัตินี้ ใหริบเสียทั้งสิ้น

                          มาตรา ๑๕๘  วัตถุออกฤทธิ์ ภาชนะหรือหีบหอบรรจุวัตถุออกฤทธิ์และเอกสารที่เกี่ยวของ
              ที่ยึดไวตามมาตรา ๗๔ หรือตามกฎหมายอื่น รวมทั้งในกรณีที่มีการนําเขา สงออก หรือนําผานซึ่งวัตถุ

              ออกฤทธิ์โดยฝาฝนพระราชบัญญัตินี้ แลวแตกรณี และไมมีการฟองคดีตอศาลเพราะเหตุไมปรากฏ
              ผูกระทําความผิดและพนักงานอัยการสั่งงดการสอบสวน หรือเพราะพนักงานอัยการมีคําสั่งเด็ดขาด

              ไมฟองคดี หรือเพราะมีการเปรียบเทียบตามมาตรา ๑๖๐ หรือมีการฟองคดีตอศาลและศาลมี
              คําพิพากษาถึงที่สุดไมริบ ถาไมมีผูใดมาอางวาเปนเจาของภายในกําหนดเกาสิบวันนับแตวันที่

              พนักงานอัยการมีคําสั่งงดการสอบสวน หรือพนักงานอัยการมีคําสั่งเด็ดขาดไมฟองคดี หรือเพราะมี
              การเปรียบเทียบตามมาตรา ๑๖๐ หรือมีการฟองคดีตอศาลและศาลมีคําพิพากษาถึงที่สุดไมริบ
              ใหวัตถุออกฤทธิ์ ภาชนะหรือหีบหอบรรจุวัตถุออกฤทธิ์และเอกสารนั้นตกเปนของกระทรวงสาธารณสุข

              และใหกระทรวงสาธารณสุขหรือผูซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมอบหมายทําลายหรือนําไปใชประโยชน
              ไดตามระเบียบที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนด

                          ถามีผูที่อางวาเปนเจาของตามวรรคหนึ่ง แสดงตอคณะกรรมการไดวาเปนเจาของแทจริง
              และมิไดรูเห็นเปนใจดวยในการกระทําความผิด ถาสิ่งที่ไดยึดไวยังคงอยูในครอบครองของพนักงาน

              เจาหนาที่ ใหคณะกรรมการสั่งใหคืนสิ่งที่ไดยึดแกผูเปนเจาของแทจริงได
                          มาตรา ๑๕๙  ในกรณีที่มีการฟองคดีความผิดเกี่ยวกับวัตถุออกฤทธิ์ตอศาลและไม

              ไดมีการโตแยงเรื่องประเภท จํานวนหรือนํ้าหนักของวัตถุออกฤทธิ์นั้น ถาศาลชั้นตนมีคําพิพากษา
              หรือคําสั่งใหริบวัตถุออกฤทธิ์ดังกลาวตามมาตรา ๑๕๗ หรือตามกฎหมายอื่นและไมมีคําเสนอตอศาลวา
              ผูเปนเจาของแทจริงไมไดรูเห็นเปนใจดวยในการกระทําความผิดภายในกําหนดสามสิบวันนับแตวันที่ศาล
   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139   140