Page 132 - การสืบสวนสอบสวน
P. 132

๑๒๕




                                   -   บรรดาขอคิดเห็นหรือขอสันนิษฐานตาง ๆ ใหไวในตอนทายของรายงาน
                                   -   เมื่อมีแผนที่ จะตองมีพิกัดทางทหารไวดวย



                 ¡ÒÃÊ׺Êǹ (»ÃÐÁÇÅÃÐàºÕº¡ÒÃตําÃǨà¡ÕèÂǡѺ¤´Õ ÅѡɳРò º··Õè ñ)

                            ¢ŒÍ õ   การสืบสวนนั้น หมายความถึง การแสวงหาขอเท็จจริงและหลักฐานซึ่งพนักงาน

                 ฝายปกครองหรือตํารวจไดปฏิบัติไปตามอํานาจหนาที่ เพื่อรักษาความสงบเรียบรอยของประชาชน
                 และเพื่อที่จะทราบรายละเอียดแหงความผิดดังที่กลาวไวในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

                            การสืบสวนนี้จะทําบันทึกไวเปนการเตือนความทรงจําก็ได หากเปนประเด็นสําคัญใหบันทึก
                 การสืบสวนไวเสมอ

                            การบันทึกนี้ หมายความเฉพาะ บันทึกฝายเดียวของผูสืบสวน ซึ่งบางกรณีที่เห็นวา
                 เปนประโยชนในการประกอบสํานวนการสอบสวนใหติดรวมไวในสํานวนการสอบสวนหรือนําสง
                 พนักงานสอบสวน  ในกรณีที่ผูสอบสวนมิไดทําหนาที่เปนพนักงานสอบสวนเพื่อรวมไวในสํานวน

                            บันทึกนี้ใหระบุ สถานที่ วัน เดือน ป ที่ทํา นามและตําแหนงของเจาพนักงานผูทําบันทึก

                 โดยอนุโลมเชนเดียวกับการทําบันทึกในการสอบสวน แตใหพึงระลึกวา ผูทําบันทึกนี้หาจํากัดวา
                 ตองเปนผูมีอํานาจสอบสวนไม แมจะเปนนายสิบ พลตํารวจก็ตองกระทําเชนเดียวกัน
                            ¢ŒÍ ññ   ตํารวจคนใดจะเปนผูที่ไดรับมอบหมายหนาที่สืบสวนเรื่องหนึ่งเรื่องใดโดยเฉพาะ

                 ก็ดี หรือตํารวจคนใดที่ดําเนินการสืบสวนโดยลําพังในฐานะที่เปนขาราชการตํารวจไมวาเหตุการณที่
                 สืบสวนจะไดเกิดขึ้นเเลวหรือเหตุการณนั้นนาจะเกิดขึ้นก็ดี จําเปนตองมีรายงานการบันทึกผล

                 การสืบสวนที่ตนไดดําเนินการแตตนนั้นเพื่อใหขอความในบันทึกการสืบสวนอยูในแนวเดียวกัน
                 ในบันทึกการสืบสวนตองใหปรากฏมีขอความดังตอไปนี้

                            ก.    การสืบสวนดําเนินมาเปนระยะ ๆ ตั้งเเตเริ่มตนจนอวสานของการสืบสวน
                            ข.    วัน เวลา และตําบลที่เกิดเหตุ

                            ค.    ขอหา มูลเหตุ หรือพฤติการณแหงการกระทําในคดีที่เกิดขึ้นแลว จะมีผูรองทุกข
                 หรือไมมีก็ตาม หรือคดีใดที่ยังไมมีผูรองทุกข ก็ตองสืบใหทราบถึงตัวผูรับความเสียหาย หรือเหตุการณ
                 อื่นใดที่นาจะกอกวนความไมสงบของประชาชน
                            ฆ.   พยานหลักฐาน ถาเปนพยานบุคคลก็ใหปรากฏชื่อ นามสกุล ตําบลที่อยูใหชัดเจน

                 เพื่อประโยชนเวลาติดตามใหไดตัว ถาเปนวัตถุพยานจะเปนเอกสารหรือสิ่งของที่อาจสามารถจะใหเปน
                 พยานไดแลว ในบันทึกตองใหปรากฏวา พบวัตถุพยานนั้นที่ใด อยูในลักษณะที่มีการซอนเรนปดบัง

                 โดยวิธีการเชนใด
                            ง.    ใหปรากฏถึงมูลกรณีเหตุที่ชักจูงใหผูสืบสวนสามารถไดพยานหลักฐานนั้นมา
                            จ.    เหตุผลแวดลอมกรณีที่เกี่ยวเนื่องในเหตุการณมาโดยละเอียด
                            ฉ.    ถาผูสืบสวนนั้นจับผูตองหา ใหลงวันที่ เวลา ตําบลที่จับ ตลอดจนทาที่สอพิรุธ

                 หรือไม ของผูถูกจับดวย
   127   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137