Page 141 - danai
P. 141

140








           เพิ่มเป็นไปตามข้อจ ากัดทางธรรมชาติ ท าให้ไม่เพียงพอ กับความต้องการของมนุษย์ซึ่งมีความ
           ต้องการเพิ่มขึ้นสูงมาก


                          (2)   ประชำกรโลกเพิ่มขึ้น การพัฒนาทาง เศรษฐกิจสังคมโดยใช้ความ
           เจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ท าให้มนุษย์เกิดพฤติกรรมในการบริโภคสูงขึ้น หรือ

           เกิดค่านิยมในการบริโภคและวัตถุนิยม ท าให้การบริโภค ของมนุษย์เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้

           ทรัพยากรธรรมชาติลดลง และ เกิดวิกฤตสิ่งแวดล้อมทั้งระดับโลก และระดับท้องถิ่น เช่น เกิด
           ภาวะโลกร้อน ภัยพิบัติเพิ่มความรุนแรง พิษภัยจากสารพิษ


           เพิ่มมากขึ้น เกิดความสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ดินเสื่อมคุณภาพและป่าไม้ถูกท าลาย
           มากขึ้นเป็นต้น


                          (3) ทัศนคติ ความเชื่อ และขนบธรรมเนียมประเพณีบางอย่างของมนุษย์ ท าลาย
           ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เช่น การถางป่า เผาป่า การเล่นกีฬาประเภทยิงนก ตกปลา ล่าสัตว์

           ความต้องการ ความสะดวกสบาย สนุกสนาน โดยไม่ค านึงถึงสิ่งแวดล้อม เช่น การสร้างถนน

           สร้างสนามกอล์ฟ สร้างรีสอร์ท การท าสงคราม การคมนาคมขนส่ง การค้าและบริการ การเกษตร
           และอุตสาหกรรม เป็นต้น


                          (4) นโยบำยของรัฐบำล บางครั้งได้มีส่วนท าลายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เช่น
           การให้ สัมปทานแหล่งแร่ การสร้างเขื่อน และการพัฒนาโดยไม่ค านึงถึงการรักษาทรัพยากรและ

           สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่ เพิ่มมากขึ้น

                          2. มำตรกำรและเครื่องจูงใจในการจัดการสิ่งแวดล้อม เครื่องมือทางด้าน

           นโยบายได้มีการพัฒนาและน ามาใช้ในการจัดการสิ่งแวดล้อม ที่นิยมใช้กันทั่วไปในปัจจุบันมี 3

           แนวทาง (สมพร แสงชัย, 2548. หน้า 110 - 114) ได้แก่

                          2.1 กำรใช้มำตรกำรตำมกฎหมำยในการควบคุมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

           (Command  and  control)  เช่น การก าหนดมาตรฐานอากาศเสียที่มนุษย์ไม่ควร
           ปล่อยออกมาให้เกินมาตรฐาน มาตรการด้าน น ้าเสียน ้าทิ้ง รูปแบบสิ่งก่อสร้างที่ถูกต้องตาม

           มาตรฐานและข้อก าหนดอื่น ๆ เป็นต้น มาตรการทางกฎหมายนี้ควรมีประสิทธิผล และเป็นธรรม

           ส าหรับทุกคน และมาตรการทางกฎหมายกลับกลายเป็นแนวทางห้ามการก าหนด อาณัติหรือ
           มาตรการควบคุมบังคับ โดยมาตรการเหล่านี้ไม่มีความยืดหยุ่น มีความเป็นทางการและยึด

           ระเบียบ ข้อบังคับ ไม่สามารถต่อรองหรือลดหย่อน และไม่มีวิธีประนีประนอมเพื่อให้เกิดแนวทาง

           ที่เหมาะสมที่สุดได้ ท าให้ เกิดการเผชิญหน้าระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเอกชนซึ่งกระท าผิด
           ระเบียบกฎหมายมาตรการทางกฎหมายแต่ อย่างเดียวจึงไม่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ไม่

           ประหยัด ไม่ส่งเสริมความคิดริเริ่มให้แก่เอกชนที่เกี่ยวข้อง และ ไม่มีหน่วยงานหรือบุคลากร
   136   137   138   139   140   141   142   143   144   145   146