Page 142 - danai
P. 142
141
เพียงพอในการปฏิบัติตามให้มาตรการเหล่านี้เกิดผล
2.2 กำรให้สิ่งจูงใจแก่ธุรกิจเอกชนในการอนุรักษ์และจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อ
ประโยชน์ 150 ของส่วนรวม (Market - based incentives) โดยตนเองไม่เสีย
ประโยชน์ และบางครั้งอาจจะได้ประโยชน์ ทั้งสองฝ่าย โดยหลักการแล้ว การน ามาตรการทาง
เศรษฐกิจมาใช้ก็เพื่อให้ค่าของความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม เป็นส่วนหนึ่งหรืออยู่ในราคาของ
สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ เช่น การใช้หลักการ ผู้ก่อความเสียหายเป็นผู้จ่าย ภาษี สิ่งแวดล้อม เช่น
การให้สิ่งจูงใจบังเกิดผลดีต่อสิ่งแวดล้อม เพราะผู้ประกอบการได้ประโยชน์เช่นกัน ท าให้
มาตรการ ทางเศรษฐกิจเป็นที่นิยมในประเทศที่พัฒนาแล้ว เพราะประหยัดมีประสิทธิภาพ
ประสิทธิผล ทั้งยังส่งเสริมความคิด ริเริ่มในการหาแนวทางใหม่หรือเทคโนโลยีชนิดใหม่ เพื่อลด
ค่าใช้จ่ายและหาก าไรจากการลดผลเสียหายทาง สิ่งแวดล้อมได้ด้วย ผู้ที่ท าลายสิ่งแวดล้อมต่อไป
ก็จะถูกลงโทษโดยปริยายเพราะต้องจ่ายค่าเสียหายต่อ สิ่งแวดล้อมด้วยการซื้อเครดิต
(Credits) จากผู้ที่สามารถลดปริมาณอากาศเสีย น ้าเสีย หรือของเสียของตนเองได้
2.3 ควำมร่วมมือระหว่ำงรัฐและเอกชนซึ่งสมัครใจโดยไม่มีการบีบบังคับ
(partnership หรือ voluntary actions) รัฐและสมาคมเอกชนตกลงเกี่ยวกับ
มาตรฐานของสิ่งแวดล้อม เช่น ปริมาณ สารพิษ ฯลฯ ที่จะต้องลดลง องค์กรเอกชน เช่น สมาคม
อุตสาหกรรมจะตกลงกันเองในหมู่สมาชิกและก าหนด สัดส่วนที่สมาชิกจะต้องรับผิดชอบในการ
ลดปริมาณสารพิษ ผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงก็ต้องถูกลงโทษ วิธีการนี้ให้อิสระแก่ผู้
ปฏิบัติพอสมควร และน าไปสู่การเปลี่ยนแปลงค่านิยมทางสิ่งแวดล้อมส าหรับภาคเอกชน อย่างไร
ก็ดี ความสมัครใจแต่เพียงอย่างเดียวดูจะไม่พอส าหรับการจัดการสิ่งแวดล้อม มาตรการทาง
กฎหมายและทางการบริหารก็ยัง จ าเป็นที่ต้องน ามาใช้
แนวนโยบำยทั้ง 3 อย่ำงที่ได้กล่าวมาแล้วไม่ได้ถูกแยกจากกันโดยเด็ดขาดแต่
อาจจะเป็นการ ผสมผสานทั้ง 3 แนวทางเข้าด้วยกัน มาตรการทางกฎหมายและการบริหารก็
ยังคงเป็นหลักทั่วไปของนโยบาย ทางสิ่งแวดล้อม มาตรการทางเศรษฐกิจจะนิยมใช้ในประเทศที่
มีระบบเศรษฐกิจทุนนิยมหรือระบบการปกครอง เสรีนิยม เพราะมีความสอดคล้องกับปรัชญาทาง
การเมืองและเศรษฐกิจมากกว่ามาตรการทางกฎหมายและ การบริหาร
3. จริยธรรมของผู้ประกอบกำรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
จริยธรรมของผู้ประกอบการต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม แยกพิจารณาได้ดังนี้
3.1 จริยธรรมของผู้ประกอบกำรต่อสังคม มีดังนี้
3.1.1 ละเว้นกำรประกอบกำรธุรกิจที่ท าให้สังคมเสื่อม น าความเดือดร้อนมาสู่
สังคม ท าลายวัฒนธรรมที่ดีงาม เช่น การเปิดสถานอบายมุขแหล่งมั่วสุม ค้าประเวณี การพนัน