Page 95 - report-06-final-ลายนำ_Neat
P. 95
้
่
ส่วนที ๔ หนา ๘๕
ั
็
ิ
่
ู
้
้
ี
่
สนใจ มาให้ข้อมลและชีแจงแสดงความคดเห็น รวมทังให้ข้อเสนอแนะทีเปนประโยชน์ เกยวกบ
ั
ื
่
่
ั
การตีความตามประมวลกฎหมายยาเสพตดทีมผลใช้บงคบเมอวันที ๙ ธันวาคม ๒๕๖๔ ว่า
ิ
่
ี
็
ื
ั
่
กญชาเปนยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ หรอไม
้
็
ขอคดเหนและขอเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ
้
ิ
(๑) ควรมกฎหมายแยกเปนการเฉพาะ เพือให้เกดความคล่องตัวและเป็นการสนับสนุน
ี
่
ิ
็
่
ให้เปนไปตามนโยบายกญชาเสรทางการแพทย เพราะทีผ่านมาไมเพียงพอสําหรบการดําเนินการ
์
ี
ั
็
ั
่
ํ
่
ุ
ื
่
ี
่
้
ั
็
ี
ั
ั
ั
ควรมมาตรการหรอกฎหมายทีออกมาควบคม กากบ ดูแล ทีเกยวของกบกญชา กญชง เปน
็
ั
ั
ิ
การเฉพาะ รวมถึงการสนบสนุนให้กญชาเปนพืชเศรษฐกจ โดยต้องสามารถควบคมเฉพาะ
ุ
่
ั
ู
่
สารเสพติดทีอยในกญชา การเข้าถึงการนําไปใช้ในทางการแพทย์ และการนําไปใช้ในทางที ่
ผิดวัตถุประสงค ์
่
่
ั
้
ิ
ั
่
่
ั
(๒) ควรเรงสรางความเชือมนให้แกประชาชนให้เกดการยอมรบการนํากญชามาใช้
่
์
ี
ิ
ุ
ประโยชนในสังคมไทย ต้องมการปรบกลยทธ์และกาวตามความเจรญของประเทศอืนในโลก
ั
้
ั
ควรมงเน้นและให้ความสําคญกบประโยชนของประเทศชาติ สังคม และประชาชนในภาพรวม
์
ุ
่
ั
่
่
ทังนี สารแคนาบินอยด์ (CBD) ทีพบในกัญชามีประโยชน์ในทางการแพทย์เป็นอย่างมาก ซึงจะ
้
้
ช่วยส่งเสรมด้านเศรษฐกจของประเทศต่อไป
ิ
ิ
ํ
(๓) ควรนําหลักวิชาการมาใช้ในการจาแนกยาเสพตดให้โทษ ประเภท ๑ - ๕ เพือให้ม ี
ิ
่
ู
ู
็
่
่
ข้อมลเชิงวิชาการมาสนับสนุนว่าสิงใดเปนยาเสพติดและจัดอยในประเภทใด
(๔) ควรมกระบวนการในการเขาถึงกญชา โดยการควบคมและเฝ้าระวังผูทีแสวงหา
่
ี
ั
้
ุ
้
์
่
่
ั
ผลประโยชนจากช่องว่างของกฎหมาย นอกเหนอจากผูทีนําไปใช้เพือรกษาตนเองและ
ื
้
์
์
ํ
ี
การนําไปใช้ตามนโยบายกญชาเสรทางการแพทย ควรกาหนดหลักเกณฑในการเข้าถึงให้ม ี
ั
กระบวนการทีรดกม
ุ
่
ั
ุ
่
ื
้
ั
่
่
การประชมครงที ๖๑ เมอวันพฤหัสบดีที ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕
ึ
ิ
ั
พจารณาศกษาการบรหารจัดการวคซีนป้องกันโรคโควด-19 สําหรบเด็กอายุต่ากว่า
ิ
ํ
ั
ิ
๑๒ ปี
่
้
สืบเนืองจากปัจจุบนมจํานวนผูติดเชือไวรัสโควิด-19 เพิมสูงขึนอยางต่อเนืองซึง
่
่
้
่
ี
่
ั
้
ิ
คณะกรรมาธิการได้ห่วงใยถึงสถานการณ์การแพรระบาดของโรคดังกล่าวเปนอยางยง
่
่
่
็
้
ํ
โดยเฉพาะในกลุมเด็กอายต่ากว่า ๑๒ ป เนืองจากเปนกลุมบุคคลทีมีภูมิคุมกันโรคต่าและยัง
่
ุ
็
ํ
่
่
ี
่
่
่
้
่
ุ
ั
้
่
ั
่
ไมได้รบการฉีดวัคซีนปองกนโรคโควิด-19 ซึงบคคลกลุมดังกล่าวเป็นกลุมเสียงสูงต่อการติดเชือ
้
ไวรสโควิด-19 และเปนกลุมเสียงต่อการแพรเชือไปยงบคคลในครอบครวได้โดยงาย ดังนัน
่
ั
่
่
็
ั
ุ
้
่
ั
เพื่อให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นระบบ อันจะทํา
่
้
้
้
ให้ลดการติดเชือและการแพรระบาดของเชือไวรัสโควิด-19 จึงได้เชิญผูแทนหน่วยงาน
ุ
่
ี
่
ู
่
ทีเกยวข้องมาให้ข้อมลต่อทีประชุม ประกอบด้วย ๑) สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสข
๒) กรมควบคุมโรค และ ๓) สถาบันวัคซีนแห่งชาติ