Page 96 - report-06-final-ลายนำ_Neat
P. 96
้
่
หนา ๘๖ ส่วนที ๔
ิ
็
้
ขอคดเหนและขอเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ
้
่
ี
(๑) หน่วยงานภาครฐทีเกยวของควรประชาสัมพันธ์ให้ความรแกเด็ก ผูปกครองและ
ั
ู
้
่
่
้
้
ั
้
่
ั
ั
ึ
่
ี
บคลากรด้านการศกษาเกยวกบข้อควรปฏิบติกอนและหลังการฉีดวัคซีนปองกนโรคโควิด-19
ุ
่
้
ี
ี
์
้
ประโยชนของวัคซีน ผลขางเคยงทีอาจจะเกิดขึนและมาตรการเยยวยาความเสียหายจากการ
่
่
ฉีดวัคซีนในเด็กอายุต่ากว่า ๑๒ ปี เพือให้เกิดความเชือมันในประสิทธิภาพของวัคซีนและ
ํ
่
้
ี
้
ิ
มาตรการช่วยเหลือเยยวยาจากหน่วยงานภาครฐในกรณีเกดผลขางเคียงรนแรงจากการไดรบ
ุ
ั
ั
วัคซีน
้
ั
่
่
่
ี
ั
่
(๒) หน่วยงานภาครฐทีเกยวข้องควรเรงนําเข้าวัคซีนปองกนโรคโควิด-19 ทีมี
่
่
่
ั
่
ั
่
ประสิทธิภาพอยางเพียงพอและกระจายไปทวประเทศ เพือให้เด็กทุกกลุมได้รบวัคซีนทีม ี
่
คณภาพอยางทัวถึง และควรศกษาวิจัยการฉีดวัคซีนชนิดเชือตาย ได้แก Sinovac และ
ุ
ึ
้
่
่
ี
่
่
ํ
่
Sinopharm ให้แกเด็กอายุต่ากว่า ๑๒ ป อยางรอบคอบ เพือเปนอีกทางเลือกของเด็กในการ
็
ได้รบวัคซีน
ั
่
่
ั
็
ู
ี
ี
(๓) หน่วยงานภาครฐทีเกยวข้องควรมระบบการจัดเกบข้อมลด้านวิชาการจากการ
ี
ุ
ั
ํ
ั
ึ
้
ศกษาวิจัยวัคซีนปองกนโรคโควิด-19 และผลข้างเคยงจากการได้รบวัคซีนในเด็กอายต่ากว่า ๑๒ ป ี
ั
รวมทังประชาสัมพันธ์เผยแพรให้ประชาชนได้รบทราบ
้
่
ั
การประชมครงที ๖๒ เมอวันพฤหัสบดีที ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
่
ุ
้
่
ื
่
ิ
พจารณาศกษาแนวทางการแก้ไขพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ และกฎหมาย
ึ
่
้
ุ
ทีเกียวของเพอให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจบัน
ื
่
่
้
่
ี
่
่
ตามทีมประเด็นข่าวการบกจับกมรานขายยาทัวประเทศ เนืองจากร้านขายยาหลายแห่ง
ุ
ุ
ั
จ้างพนกงานขายยาทีไมใช่เภสัชกร ซึงขาดความรความเข้าใจในสรรพคณข้อบงใช้และ
่
้
ู
่
่
่
ุ
ข้อพึงระวังในการขายยา เพราะหากจ่ายยาไม่ตรงตามอาการของโรคอาจส่งผลกระทบต่อ
สุขภาพของประชาชน เช่น ยานอนหลับ ยาชุด และการขายยาอันตราย ยาควบคมพิเศษ
ุ
การกระทําดังกล่าวเป็นการกระทําทีฝ่าฝืนพระราชบญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ ดังนัน เพือให้การ
ั
่
้
่
่
เข้าถึงยาของประชาชนเป็นไปอยางมประสิทธิภาพ การประชุมครงนีจึงได้เชิญหน่วยงาน
้
ี
้
ั
ี
ทีเกยวของ ได้แก สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา สภาเภสัชกรรม และผูแทนเภสัชกรรม
่
้
้
่
่
้
ิ
ี
่
่
เข้ารวมประชุมเพือหาแนวทางการแก้ไขกฎหมายทีเกยวข้องกบการประกอบกจการรานขายยา
่
่
ั
ั
ในปจจุบน
ั
ขอคดเหนและขอเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ
ิ
้
้
็
้
ั
่
(๑) ควรปรบเปลียนวิธีการจับกมของเจ้าหน้าทีโดยใช้วิธีการละมนละมอมมากขึน
ุ
่
ุ
่
ํ
ั
(๒) สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาในฐานะหน่วยงานกากบดูแล ควรรวบรวม
่
้
ข้อมูลจํานวนเรืองร้องเรียนทีเกิดขึนว่ามีเท่าใด เพือการบริหารจัดการในภาพรวม และไม่ควร
่
่
พิจารณาตัดสินทุกเรองเป็นคดีความแตควรใช้วิธีประชาสัมพันธ์ให้รานยาและสังคมทราบกอน
่
่
้
่
ื
่
หากไมดําเนินการจึงจะไปใช้กฎหมายจับกมต่อไป
ุ