Page 216 - วิชาการการเขียนเพื่องานประชาสัมพันธ์
P. 216
203
2.6 ความน าแบบค ากลอนหรือ
สุภาษิต ความน าแบบนี้ผู้เขียนจะยกเอาค ากลอน
หรือสุภาษิตมาเขียนแทนการบรรยายหรือ
พรรณนาทั่วไป การใช้ค ากลอนหรือสุภาษิตใน
การเขียนความน า เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่สะดุดตา
ผู้อ่าน โดยเฉพาะนักอ่านที่มีนิสัยชอบอ่านชอบ
แต่งค าประพันธ์ประเภทร้อยกรอง การเขียน
ความน าแบบนี้ ถ้าผู้เขียนเลือกสรรค าที่ไพเราะมี
ความหมายลึกซึ้ง
2.7 ความน าแบบกระทบความรู้สึกหรือกระทบใจ ความน าแบบนี้ใช้
ค าขึ้นต้นที่กระทบใจผู้อ่านให้รู้สึกในทันทีว่า เรื่องต่อไปคงจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ
เหตุการณ์ฆาตกรรมอย่างแน่นอน ใครฆาตกรรมใคร และใครคือทูตมรณะ การ
เขียนแบบนี้จะใช้ค าสั้นๆ ซ้ าๆ กัน เป็นค าที่มีน้ าหนักหรืออาจจะเป็นค าๆ เดียว
แต่มีน้ าหนักก็ได้ความน าแบบนี้มักเป็นความน าของเรื่องที่ก่อให้เกิดความ
หวาดหวั่น น่ากลัว น่าสยดสยอง การเขียนความน าแบบนี้เรียกเป็นภาษาอังกฤษ
ว่าแบบ striking lead
2.8 ความน าแบบสนทนากับผู้อ่านหรือปราศรัยกับผู้อ่านโดยตรง
ความน าแบบนี้ผู้เขียน จะใช้สรรพนามแทนตัวเอง และแทนตัวผู้ฟัง การเขียนแบบ
นี้ไม่ต้องใช้ข้อความยาวมาก แต่ให้สะดุดใจผู้อ่าน ใช้ภาษาเป็นกันเองกับผู้อ่าน
เหมือนกับเคยรู้จักกันมาก่อน และคล้ายกับมีผู้ฟังนั่งฟังอยู่ด้วย การเขียนความน า
แบบนี้ภาษาอังกฤษเรียกว่า แบบ direct address lead
2.9 ความน าแบบค าพูด การเขียนความน าแบบนี้จะมีลักษณะเริ่มต้น
ด้วยค าพูดกับผู้อ่าน จะเป็นค าคมหรือค าพูดที่แสดงอารมณ์เป็นกันเองกับผู้อ่านก็ได้
แต่ต้องให้ค าพูดนั้นมีใจความที่จะเกี่ยวข้องกับเนื้อหา ข้อความที่เขียนไม่ต้องยาว
มาก พอให้ได้ใจความตรงกับจุดมุ่งหมายของการที่จะพูดเท่านั้น การเขียนความน า
แบบนี้ภาษาอังกฤษเรียกว่า แบบ quotation lead

