Page 225 - วิชาการการเขียนเพื่องานประชาสัมพันธ์
P. 225
212
ตัวอย่างสารคดีเพื่อการประชาสัมพันธ์
(ให้ทั้งข่าวสาร ความรู้ และค าแนะน า อีกทั้งยังได้รับความเพลิดเพลิน)
เรื่องหวานๆ ตัวการท าลายสุขภาพลูก (ต่อ)
สิ่งที่เด็กกลุ่มนี้เลือกกินคือ เค้ก ไอศกรีม ขนมหวาน น้ าอัดลม ฯลฯ มี
การประมาณการว่า เด็กไทยจ านวนราว 15 ล้านคน เสียค่าขนมที่ไร้ประโยชน์เป็น
มูลค่ามากถึงปีละ 1 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ดี เมื่อกลางปี 2548 ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้ออก
ประกาศฉบับที่ 286 ห้ามเติมน้ าตาลลงในนมผงสูตรต่อเนื่อง (follow-on formula)
ส าหรับเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 3 ปี ซึ่งในเมืองไทยจะมีเด็กเล็กช่วงวัยดังกล่าวอยู่จ านวน
กว่า 2 ล้านคน โดยมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2548 ที่ผ่านมา
ถึงกระนั้น เชื่อว่ามีเด็กจ านวนหนึ่งได้ติดรสหวาน และเริ่มมีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนแล้ว
จึงขอแนะน าผู้ปกครองถึงวิธีการจัดการ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่จะเกิดขึ้นกับลูก
น้อย ดังนี้
1. เลือกอาหารที่มีพลังงานต่ า แต่ให้ประโยชน์สูงและอิ่มท้อง อาหารที่
ควรให้เด็กกิน เช่น อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต และไขมันต่ า โปรตีนสูง วิตามินและเกลือ
แร่สูง เช่น เปลี่ยนจากกินข้าวสวยมาเป็นข้าวต้ม เนื้อสัตว์ที่ไม่มันจัด ผัก และกินผลไม้
เป็นอาหารว่างแทนของขบเขี้ยว
2. เลิกดูดขวด อาหารยังไม่มีน้ าตาลมากเท่ากับน้ าตาลที่มีอยู่ตาม
ธรรมชาติในนมจืด และส่วนใหญ่เด็กที่ดูดนมจากขวด เด็กจะนอนดูด น้ านมจะเต็มฟัน
อยู่ตลอดเวลาเป็นเหตุให้ฟันผุด้วย ถ้าเด็กอายุ 1 ปี มีน้ าหนักเกิน 20 กิโลกรัมขึ้นไป
ควรให้เด็กดื่มนมพร่องมันเนยแทน วิธีซื้อนมผงพร่องมันเนย ให้สังเกตข้างกระป๋อง ซึ่ง
จะเขียนว่า “นมผงแปลงไขมันละลายทันที”
3. ออกก าลังกายหรือพาออกไปท ากิจกรรม เพื่อไม่ให้เด็กว่างนึกถึงการกิน
และนั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ ที่ไม่เกิดการเผาผลาญพลังงาน
การควบคุมอาหาร ไม่ให้เด็กกินหวาน จะดีต่อสุขภาพของเด็ก เช่นเดียวกับตัวคุณพ่อ
และคุณแม่เองด้วย เพราะฉะนั้นมาร่วมเป็นครอบครัวสุขภาพดี ที่ไม่กินหวานกันเถอะ
(บันทึกคุณแม่, 2549, หน้า 122 – 123)

