Page 142 - สารคดี เรื่อง พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี.
P. 142

สลัก ‘หลวงพ่ออู่ทอง’ เล็งผลเพื่อการศึกษา


                                        โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์  27 ม.ค. 2560 05:01 น.



                        “สลักหลวงพ่ออู่ทองยังไม่มีหน่วยงานราชการใดๆ มาช่วยเรา” พระเทพสุวรรณโมลี

                  หรือเจ้าคุณสอิ้ง สิรินนฺโท ยืนยัน
                        เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรียืนยันด้วยเสียงหนักแน่นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสลักพระพุทธ-

                  ปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือหลวงพ่ออู่ทอง ซึ่งก�าลังสลักอยู่ ณ หน้าผามังกรบิน ข้างเขาท�าเทียม
                  อ�าเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

                        ก่อนสลักพระ “เราขออนุญาตถูกต้องทุกอย่าง ให้ส�านักงานพระพุทธศาสนาขออนุญาต
                  กรมป่าไม้ และขอพื้นที่กรมทรัพยากรธรณี แรกๆ เราขอไป ๕๐๐ ไร่ ท่านไม่ให้ ต่อมา คุณชุมพล

                  ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เราขอใหม่อีก คราวนี้ท่านมาตรวจสอบแล้ว
                  ให้มา ๑๒๐ ไร่”

                        สรุปว่า การสลักพระพุทธรูป “หลวงพ่ออู่ทอง” แม่งานคือ พระเทพสุวรรณโมลี เจ้าคณะจังหวัด

                  สุพรรณบุรี ขออนุญาตจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ค่าใช้จ่าย
                  ต่างๆนั้นไม่มีหน่วยงานใดๆเข้ามาช่วยเหลือ

                        ช่างที่มาสลัก “แรกๆไปหาช่างชาวจีน ปรากฏว่าเรียกค่าสลักพระองค์แรกถึง ๙๐๐ ล้านบาท
                  จึงหันมาปรึกษากับญาติโยม ในที่สุดก็ได้ช่างชาวไทยเข้ามารับเหมา คิดราคาแค่ ๙๐ ล้านบาท”

                        ราคานี้ “ช่างคิดเฉพาะค่าแรง ไม่มีค่าวัสดุ เพราะวัสดุเราเป็นหิน”
                        เมื่อสลักพระองค์แรกเสร็จ ในแผนจะสลักพระพุทธรูปทั้งหมด ๕ องค์ มี ๕ ปางคือ

                        ๑.ปางปรินิพพาน ๒.ปางตรัสรู้ ๓.ปางประสูติ ๔.ปางปฐมเทศนา และ ๕.ปางโปรด

                  พุทธมารดา คือ พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือหลวงพ่ออู่ทอง
                        หากส�าเร็จตามโครงการ พระพุทธรูปทั้ง ๕ ปาง จักรายเรียงอยู่บนหน้ารูปคล้ายมังกรบิน

                  ยาวประมาณ ๘๐๐ เมตร พร้อมภูมิทัศน์ อันสวยงามที่จัดวางไว้อย่างลงตัว
                        “เราท�าตรงนี้เหมาะ เพราะหน้าผาเหมือนมังกรบิน เลยตั้งชื่อว่าผามังกรบิน ซึ่งอยู่ติดกับ

                  เขาท�าเทียม จริงๆ ตรงนี้เขาเรียกกันว่าเขารางกะบิด (เพราะเคยมีต้นกะบิดขึ้นมาก) แต่ไม่ค่อยมี
                  คนรู้จักชื่อ” เจ้าคุณสอิ้งบอก

                        ความเป็นมาของการสลักพระพุทธรูป เจ้าคุณสอิ้งบอกว่า เกิดแนวคิดมาจากการไป
                  ต่างประเทศและดูสารคดีหลายๆครั้ง พบว่าประเทศที่พระพุทธศาสนาเจริญจะสลักพระพุทธรูป

                  ไว้บนเขาอย่างพระพุทธรูปองค์ใหญ่บนหน้าผาที่หุบเขาบามิยัน อัฟกานิสถาน และพระพุทธรูป




                                                             หนึ่งเดียวในไทย ยิ่งใหญ่ในโลก มรดกคู่ฟ้าดิน 141
   137   138   139   140   141   142   143   144   145   146   147