Page 144 - สารคดี เรื่อง พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี.
P. 144
ส่วนข้อมูลทางประวัติศาสตร์ “จะเอานักโบราณคดีมาช่วยกันระดมความคิด สืบค้นข้อมูล
ทางประวัติศาสตร์ แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นภาพสลักนูนต�่า สลักติดกับผนังให้พุทธศาสนิกชน
ได้ศึกษากัน โดยจะเริ่มตั้งแต่ยุคแรก ยุคพระเจ้าอโศกจนมาถึงยุคปัจจุบัน”
แต่ “อาตมาอายุ ๘๓ ปีแล้ว ในอายุเราอาจจะไม่พอ จะท�าโครงการไว้ให้คนรุ่นหลัง
ได้ท�ากันต่อไป”
เจ้าคุณสอิ้งบอกว่า เมื่อท�าตามโครงการเสร็จสรรพ การบริหารจัดการไม่ใช่ “วัดป่าเลไลยก์”
และไม่ใช่ของใคร แต่เป็นของพุทธศาสนิกชนทุกคน การขับเคลื่อนจะมี “มูลนิธิคณะสงฆ์จังหวัด
สุพรรณบุรี” โดยมีเจ้าคณะจังหวัดเป็นประธาน และเจ้าคณะอ�าเภอเป็นกรรมการ
พร้อมย�้าว่า “สถานที่ตรงนี้ไม่เป็นวัด ไม่เป็นสมบัติของวัดป่าฯ เราตั้งมูลนิธิฯ ขึ้นมาเพื่อ
ด�าเนินการตามเป้าหมายและดูแล รายได้ต่างๆที่จะเกิดมาจากการบริหารของมูลนิธิฯ เราจะไป
สร้างสรรค์สังคม ท�าประโยชน์ให้กับสังคม ช่วยเหลือสังคม เราฝันถึงขนาดท�าให้ได้เท่ากับรางวัล
แมกไซไซ เราฝันไกลขนาดนั้น”
เจ้าคุณสอิ้งบอกว่า มูลนิธิฯ จะช่วยเหลือสงเคราะห์ด้านการศึกษาทั้งพระสงฆ์และการศึกษา
ทุกรูปแบบ และมีแนวคิดส่งเสริมคนที่สร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับสังคมด้วย อย่างที่รางวัลโนเบล
และรางวัลแมกไซไซท�า
หนึ่งเดียวในไทย ยิ่งใหญ่ในโลก มรดกคู่ฟ้าดิน 143