Page 230 - หนังสืออนุทิน พระศรีธวัชเมธี (ชนะ ป.ธ. ๙) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร สุพรรณบุรี, ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา.
P. 230

จากปี ๒๕๓๙ เป็นต้นมา ข้าพเจ้าไม่เคยเหยียบย่างเข้าวัด

                ปรินายก เพราะไม่มีกิจจะต้องเข้าไปอีก จนมาถึงวันนี้ (๒๕ ก.ค.๒๕๖๑)
                มีนัดหมายกับเจ้าหน้าที่หอสมุดแห่งชาติ ที่จะน�าเอกสารมาให้ข้าพเจ้า

                ซึ่งใกล้กว่าที่ข้าพเจ้าจะเดินทางไปหอสมุดที่ท่าวาสุกรี จึงเป็นเหตุให้
                เข้าวัดปรินายก

                       นัดเวลาไว้เวลา ๐๙.๐๐ น. แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่นั้นยัง
                เดินทางมาไม่ถึง จึงส�ารวจพระอุโบสถก่อน มีใบสีมาคู่ สอบถามพระว่า

                โบสถ์สร้างปีอะไร ท่านบอกว่าในสมัยรัชกาลที่ ๕ เพราะย้ายมาจาก
                กลางถนนราชด�าเนิน มาอยู่ที่ตรงนี้ เรียกว่าเป็นโบสถใหม่ มีตราสิงห์

                แบกเครื่องสูง ซึ่งเป็นตราลัญจกรของเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์)
                ต้นตระกูล “สิงหเสนี” ที่เป็นขุนพลแก้ว ของรัชกาลที่ ๓ ดังพระนาม

                ที่ปรากฏด้านหลังรูปหล่อเจ้าพระยาขุนพลแก้วว่า “ปรินายกแก้ว”
                ทราบว่าเป็นรูปที่หล่อในสมัยของเจ้าอาวาสรูปก่อนคือเจ้าคุณ

                พระอมรเมธาจารย์ (สุคนธ์ ป.ธ.๖ มรณภาพในปี ๒๕๕๒) ส่วน
                เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันเป็นคนจังหวัดตราด มาจากวัดชนะสงคราม

                ชื่อว่าเจ้าคุณบุญชู ป.ธ.๗ (พระพิพัฒน์จริยาลังการ) ครองต�าแหน่ง
                เจ้าอาวาสจากปี ๒๕๕๓ เป็นต้นมา

                       ระหว่างรอคอยเอกสาร ข้าพเจ้าสอบถามว่ายังมีพระชาวสุพรรณ

                อยู่บ้างไหม ได้รับค�าตอบว่ามีพระมหาเมธี จนฺทสิริ ป.ธ.๕ ผู้ช่วย
                เจ้าอาวาสวัดปรินายก เป็นชาวสุพรรณเหลืออยู่รูปเดียว จึงขอให้
                พาไปยังคณะ ๓ เพื่อสอบถามข้อมูลบางประการ

                       พระมหาเมธี นามสกุลเดิม อุดทา เป็นคนบ้านทึง อ�าเภอสามชุก

                (เกิดปีชวด ๒๑ เม.ย.๒๔๗๙) เล่าว่าบวชเณรหางนาคที่วัดโป่งแดง
                อ�าเภอสามชุก มีพระครูธรรมสารรักษา (พระมหาสวิง) เป็นพระอุปัชฌาย์




          228 อนุทินประจ�ำวัน
   225   226   227   228   229   230   231   232   233   234   235