Page 9 - ข่าวสาร สอ.กฟผ.

การที่สหกรณ์ออมทรัพย์ทั้งหลายลงทุนซื้อหุ้นกู้ของ “การบินไทย” ก็เพราะเป็น “บริษัทของรัฐ” (รัฐวิสาหกิจ)
“สหกรณ์ลงทุนเพราะเชื่อมั่นในรัฐ ไม่ใช่เชื่อมั่นในการบินไทย” อยู่ ๆ รัฐก็ทิ้งบริษัทนี้ส่งเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู
หุ้นกู้ที่สหกรณ์ถืออยู่กลายเป็นปัญหาและถูกตั้งค�าถามว่าจะได้รับการช�าระคืนหรือไม่ เกิดความระส�่าระสายไปใน
ทุกสหกรณ์ที่เกี่ยวข้อง สมาชิกจ�านวนหนึ่งกังวลใจและถอนเงินฝากออกไป ซึ่งอาจท�าให้เกิดปัญหาสภาพคล่องในสหกรณ์
เหล่านั้น และอาจส่งผลต่อเนื่องไปยังสหกรณ์ออมทรัพย์อื่น ๆ ที่พึ่งพาเงินจากสหกรณ์กลุ่มนี้ด้วย (สหกรณ์ที่ลงทุนในหุ้นกู้
การบินไทยส่วนใหญ่คือแหล่งเงินกู้ส�าคัญของสหกรณ์ออมทรัพย์อื่น ๆ อีกจ�านวนมาก) ดังนั้นภาครัฐควรพิจารณา

ให้ความช่วยเหลือสหกรณ์กลุ่มนี้เป็นกรณีพิเศษด้วย
อาจมีค�าถามว่าจะให้รัฐเข้ามาช่วยเหลืออย่างไร? ผมขอเสนอให้รัฐตั้งกองทุนหรือใช้กองทุนที่มีอยู่เดิมมา
รับซื้อหุ้นกู้นี้ออกไปจากระบบสหกรณ์ (ประมาณ 42,229.2 ล้านบาท) บางท่านอาจมองว่าเป็นเงินก้อนใหญ่ ภาครัฐ
ซึ่งขณะนี้มีภาระหลายด้านอาจไม่สามารถรับไหว แต่ถ้าเปรียบเทียบกับวงเงินที่รัฐให้ธนาคารชาติตั้งเป็น “กองทุน
เสริมสภาพคล่องเพื่อลดความเสี่ยงของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน” (ตราสารหนี้เป็นของบริษัทเอกชน)
จ�านวน 400,000 ล้านบาท จะเห็นว่าวงเงินนี้คิดเป็นเพียงประมาณร้อยละ 10 เท่านั้น ยิ่งกว่านั้นถ้าจัดระบบ (คิว)
การช�าระเงินให้สหกรณ์ตามก�าหนดช�าระคืนเงินของการบินไทยที่มีอยู่เดิม กองทุนนี้จะใช้เงินปีละไม่มากนัก (ดูตาราง
ประกอบ)

พ.ศ. หุ้นกู้ครบก�าหนด (ล้านบาท) พ.ศ. หุ้นกู้ครบก�าหนด (ล้านบาท)

2563 1,117.0 2572 3,794.5

2564 3,244.1 2573 956.0

2565 4,991.0 2574 -
2566 3,349.5 2575 1,479.7

2567 3,455.1 2576 1,170.7

2568 5,031.2 2577 3,292.8

2569 2,070.2 2577 3,292.8
2570 2,518.6 n.a. 150.0

2571 5,608.8 รวม 42,229.2

ถ้าเป็นไปตามแนวทางนี้สหกรณ์ก็จะได้รับเงินต้นคืนเมื่อถึงก�าหนดเวลา และไม่มีพันธะผูกพันกับการบินไทย
ในฐานะของเจ้าหนี้ต่อไป ส่วนกองทุนก็จะกลายเป็นเจ้าหนี้ของบริษัทการบินไทย โดยจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการเจรจา
ต่อรองและบริหารแผนฟื้นฟูร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน ระหว่างที่กองทุนยังช�าระเงินให้สหกรณ์
ไม่ครบตามจ�านวน ก็จะมีฐานะเป็นลูกหนี้ของสหกรณ์ (แยกเป็นราย ๆ ไป) ทั้งนี้ กองทุนอาจจ่ายดอกเบี้ยให้กับสหกรณ์
ในระหว่างที่ยังช�าระเงินค่าซื้อหุ้นกู้ไม่ครบ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะเป็นเท่าไรนั้นขึ้นอยู่กับการเจรจากันระหว่างกองทุน
กับสหกรณ์

ส่งท้ายก่อนจาก
แนวทางที่เสนอนี้เป็นแค่แนวทางหนึ่งเท่านั้น อาจมีแนวทางอื่น ๆ อีก เช่นที่ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งหนึ่ง
เรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาค�้าประกันหนี้ที่การบินไทยมีอยู่กับสหกรณ์ เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นแนวทางไหนก็ตาม (ที่พวกเรา
เสนอกันไป) จะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเลยถ้าพวกเราหรือตัวแทนไม่ได้มาหารือร่วมกัน ก็คงต้องฝากทาง ชสอ. ช่วยกรุณา

เป็นศูนย์กลางในการจัดการในเรื่องนี้โดยด่วนด้วยครับ ... ผมเป็นห่วงว่า “กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้” สวัสดีครับ

7

ปีที่ 41 ฉบับที่ 337 เมษายน - มิถุนายน 2563