Page 11 - ฟิสิกส์นิวเคลียร์
P. 11

11







                                กำรเปลี่ยนสภำพนิวเคลียส



               ในกำรศึกษำธำตุกัมมันตรังสีต่ำง ๆ พบว่ำ มีธำตุใหม่เกิดขึ้นหลังจำกที่

        ได้แผ่รังสีแอลฟำ หรือรังสีบีตำเสมอ เช่น เมื่อทอเรียมปล่อยอนุภำคแอลฟำ

        ออกมำจะกลำยเป็นเรเดียม ซึ่งมีมวลอะตอม น้อยกว่ำทอเรียมประมำณ

        เท่ำกับมวลของอนุภำคแอลฟำที่ปลดปล่อยออกมำ นอกจำกนี้ประจุไฟฟ้ำ

        ของนิวเคลียสของเรเดียมที่เกิดใหม่ก็มีค่ำน้อยกว่ำของทอเรียมเดิมอยู่ +2e

        ด้วย เนื่องจำกมวลของ ธำตุ 1 อะตอมมีค่ำใกล้เคียงกับมวลของนิวเคลียส

        ดังที่ทรำบมำแล้ว ดังนั้นกำรเปลี่ยนแปลงของ นิวเคลียส ทั้งนี้เนื่องจำก

        มวลของอิเล็กตรอนมีค่ำน้อยมำก เมื่อเปรียบเทียบกับมวลของโปรตอน

        แสดงว่ำอนุภำคแอลฟำได้มำจำกกำรเปลี่ยนสภำพนิวเคลียส (nuclear

        transformation) ของ ทอเรียมไปเป็นเรเดียม

               ในกรณีที่มีกำรแผ่รังสีบีตำ เช่น เมื่อตะกั่วปล่อยอนุภำคบีตำออกมำ

        ตะกั่ว จะกลำยเป็นบิสมัท ซึ่งมีประจุเพิ่มขึ้น +1e แต่ทั้งตะกั่วและบิสมัทจะ

        มีมวลใกล้เคียงกัน พลังงำนจลน์ของอิเล็กตรอนหรือ อนุภำคบีตำที่ออก

        มำนี้มีค่ำสูงมำกเมื่อเทียบกับพลังงำนจลน์ของอิเล็กตรอนที่เคลื่อนที่รอบ

        นิวเคลียส แสดงว่ำอนุภำคบีตำนี้ไม่ใช่อิเล็กตรอนที่เคลื่อนที่รอบนิวเคลียส

        นั่นคืออนุภำคบีตำนี้ต้องเกิดจำกกำร เปลี่ยนสภำพนิวเคลียส

               ด้วยเหตุที่กัมมันตภำพรังสีมีควำมเกี่ยวข้องกับกำรเปลี่ยนสภำพของ

        นิวเคลียสกำรศึกษำเกี่ยวกับ กัมมันตภำพรังสีจะท�ำให้ทรำบองค์ประกอบของ

        นิวเคลียสได้
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16