Page 8 - E-book GPP แบบ CVM_A4_ปรับ_1
P. 8
- 6 -
3) หาดัชนีราคาของแต่ละกิจกรรมการผลิต แต่เนื่องจากข้อจ ากัดด้านข้อมูลของดัชนีราคารายจังหวัด
จึงต้องใช้ดัชนีราคา (Implicit Price Deflator: IPD) ระดับประเทศ โดยดัชนีราคาของกิจกรรมใด ๆ เท่ากับ
มูลค่าเพิ่มระดับประเทศ ณ ราคาประจ าปี หารด้วยมูลค่าเพิ่มระดับประเทศ ณ ราคาปีที่แล้ว (Value Added
at Previous Year Prices: PYP) ของกิจกรรมนั้น ๆ คือ
IPD = (CYP / PYP ) X 100
i,t
i,t
i,t
โดยที่ i คือ กิจกรรมการผลิตที่...
t คือ ปี 2538 ถึง 2553
4) ค านวณมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาปีที่แล้ว (PYP ) เป็นรายจังหวัด โดยใช้มูลค่าเพิ่ม ณ ราคาประจ าปี
i,j,t
(CYP ) หารด้วยดัชนีราคาของแต่ละกิจกรรมการผลิต คือ
i,j,t
PYP = CYP / IPD
i,j,t
i,j,t
i,t
โดยที่ j คือ จังหวัด 1 ถึง 76
5) ค านวณหาดัชนีปริมาณโดยตรง (Direct Index: DI) โดยค านวณจาก
DI = PYP / CYP i,j,t-1
i,j,t
i,j,t
6) ค านวณหาดัชนีปริมาณลูกโซ่ (Chain Index: CI) หรือ Chain Linking โดยเชื่อมโยงดัชนีปริมาณ
โดยตรง (ขั้นตอนที่ 5) แต่ละปีเข้าด้วยกัน โดยให้ปี พ.ศ.2545 เป็นปีอ้างอิงและมีค่าเท่ากับ 100
7) ค านวณหาปริมาณลูกโซ่ (Chain Volume Measures: CVM) และท าการเชื่อมโยงปีอื่นด้วยดัชนี
ปริมาณลูกโซ่ (ขั้นตอนที่ 6)
อย่างไรก็ตาม การค านวณด้วยวิธีปริมาณลูกโซ่ยังคงมีคุณลักษณะ Non-Additive ท าให้มูลค่า CVM
ในระดับยอดรวมไม่สามารถใช้ผลรวมของค่า CVM ในระดับย่อยมารวมกันได้ เช่น ไม่สามารถน ามูลค่า CVM
ของสาขาเกษตรกรรมมารวมกับมูลค่า CVM ของสาขาประมง เป็นมูลค่า CVM ของภาคเกษตรได้ นั่นคือ
มูลค่า CVM ของภาคเกษตร จะต้องมาจากการค านวณ CYP และ PYP ของภาคเกษตรโดยตรง
4. ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์จังหวัด
1) ใช้รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจของจังหวัดและเป็นข้อมูลส าหรับเตือนภัย
2) ใช้เป็นเครื่องมือในการเปรียบเทียบภาวะเศรษฐกิจ ระดับการพัฒนา และรายได้ระหว่างจังหวัด
3) ใช้ในการจัดท าแผนยุทธศาสตร์หรือแผนพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัด