Page 9 - 12_การปฏบตงานในสถานตำรวจ_Neat
P. 9
๒
μÃÒἋ¹´Ô¹
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ
ใหผูกตราประจําประเทศขึ้นเปนครั้งแรก
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๖ โดยเรียกกันทั่วไปวาตราแผนดินหรือตราอารม ซึ่งตราดังกลาวนี้เปน
พระราชลัญจกรประจําแผนดินซึ่งใชสําหรับประทับกํากับพระปรมาภิไธยหรือกํากับนามผูสําเร็จราชการ
แทนพระองค แตสําหรับตราหนาหมวกตํารวจในปจจุบันนั้น เริ่มใชกันตั้งแตป พ.ศ. ๒๔๙๒ โดยไดมี
การนําตราแผนดินของรัชกาลที่ ๕ มาลงอักษรคําวา “¾Ô·Ñ¡ÉÊѹμÔÃÒɮÔ ไวบนแพรริ้วใตตราแผนดิน
ซึ่งกอนหนานั้นตราหนาหมวกตํารวจไดพัฒนาเปลี่ยนแปลงมาถึง ๔ ครั้ง ครั้งแรกเริ่มใน รัชกาลที่ ๔
เปนโลหะรูปชางสามเศียรยืนในตราอารม มีอักษรจารึกวา “¾ÅμÃÐàǹÊÂÒÁ”
สวนตราหนาหมวกรุนที่ ๒ (ตํารวจนครบาล) และรุนที่ ๓ (ตํารวจภูธร) เริ่มใชในป
พ.ศ. ๒๔๕๘ โดยของตํารวจนครบาลเปนรูปเพชราวุธลอมดวยกลีบกนก ในขณะที่ตํารวจภูธรในยุคนั้น
ใชหนาหมวกเปนตราปทุมอุณาโลมบนพื้นสีแดงโดยมีบัวกนกสีนํ้าตาลลอมรอบสําหรับหนาหมวกตํารวจ
รุนที่ ๔ เริ่มใชในป พ.ศ. ๒๔๗๘ เปนโลหะรูปสี่เหลี่ยมรี มีปทุมอุณาโลมอยูกลางกงจักรโดยรอบนอก
กงจักรมีลายเพลิง สวนในกงจักรมีอักษร “พิทักษสันติราษฎร” ดังนั้นตราหนาหมวกในปจจุบันที่ทําดวย
โลหะสีเงิน ดุนเปนตราแผนดินและจารึกคําวา พิทักษสันติราษฎรนั้น จึงเปนตราหนาหมวกตํารวจ
รุนที่ ๕ โดยในตราแผนดินจะมีพุทธภาษิตจารึกไววา “สัพเพสัง สังฆะภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธกา”
ซึ่งแปลวาความพรอมเพรียงของหมูคณะยอมยังความเจริญใหสําเร็จ อันเปนพุทธภาษิตที่จําเปน