Page 44 - Ebook
P. 44

๙. เช้าน้ีที่เขาคิชกูฏ
เขําคิชกูฏวันน้ีเดินขึ้นไปได้อย่างสะดวกสบาย เพราะทางเดินได้รับ การบูรณะดูแลเป็นอย่างดี เนื่องจากนักแสวงบุญชาวไทยจํานวนมากเดินทางมา ท่ีแห่งน้ีอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะยามเช้าท่ีอากาศเย็นสบาย และถ้าเรา ตระหนักรู้ลมหายใจแห่งสติในทุกย่างก้าวเฉกเช่นพระพุทธองค์และเหล่า อริยสาวกที่ได้ใช้หนทางน้ีเดินข้ึนลงอยู่เสมอในสมัยพุทธกาล นั่นหมายความว่า เรากาํ ลงั ใชย้ า่ งกา้ วทก่ี าํ ลงั สรา้ งพลงั แหง่ ความสงบสขุ เปน็ เครอื่ งบชู าพระตถาคต ซึ่งถือว่า เป็นการบูชาอย่างสูงสุดเช่นกัน
อดีตท่ีไม่ดี ได้รับการแปรเปลี่ยน เยียวยา
เพราะความสงบสุขแต่ละย่างก้าวของเรา จะช่วยเยียวยา รักษา เปลี่ยนแปลงความเจ็บปวด ความทุกข์ในจิตใจของเรา ถ้าเรายังคงทุกข์ใจ ในเร่ืองนั้นๆ อยู่ จากอดีตที่เคยตกเป็นเหย่ือแห่งอารมณ์ท่ีไม่น่ารักท้ังหลาย ทงั้ ปวงกาํ ลงั ไดร้ บั การบาํ บดั รกั ษาดว้ ยกา้ วยา่ งแหง่ ปจั จบุ นั อยา่ งเตม็ เปย่ี มแทจ้ รงิ
“ย่ํางก้ําวแห่งสติ คือพลังแห่งกํารเยียวยํา”
เราจะค่อยๆ เพิ่มพลังแห่งสติในตัวเราเองมากยิ่งขึ้นด้วยย่างก้าว ท่ีตระหนักรู้ ทําให้เราเห็นความดี ไม่ดีในตัวเองและจิตใจสามารถยอมรับ ความไม่ดีเหล่าน้ันอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนในที่สุดเราสามารถระงับและ ไม่ทําความไม่ดีนั้นอีก มีพลังแห่งการปกป้องตัวเองไม่ให้ตกเป็นเหย่ือแห่ง ความอยากทั้งปวงจะปรากฏขึ้นชัดเจนอย่างมหัศจรรย์ เพราะถึงแม้เราจะมี ความตั้งใจหรือพยายามที่จะกระทําแต่ส่ิงที่ดีและไม่กระทํา พูด คิดในส่ิงท่ีไม่ดี แต่ถ้าเรายังขาดพลังแห่งสติในตัวเอง เราก็จะตกเป็นเหย่ือต่อส่ิงไม่ดีท่ีเรา เคยสะสมในตัวเองมาเน่ินนาน ท่ีอาจเกิดจากการถูกถ่ายทอดจากพ่อแม่ บรรพบุรุษและส่ิงแวดล้อม รวมถึงการดําเนินชีวิตอย่างไม่ตระหนักรู้ เสพติด
32 : บ า ต ร เ ดี ย ว ท่ อ ง โ ล ก ๒
    



























































































   42   43   44   45   46