Page 144 - cover-biology-boontieam new28-8 i_coateduv
P. 144

ยังไม่มีภารกิจใดที่ต้องไปอยู่ดำเนินการที่นั่น  กรมศุลกากรจึงมีคำสั่งให้ปฏิบัติ

                                                                                                                หน้าที่ราชการ  ณ  ด่านศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพต่อไป  โดยได้รับมอบหมาย
                                                                                                                ให้ทำงาน  ณ  งานป้องกันและปราบปราม  ฝ่ายควบคุมลานบินต่อไป  จนถึง
                                                                                                                ปลายปีพ.ศ. 2537  จึงได้รับการโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายป้องกัน
                                                                                                                และปราบปราม  ด่านศุลกากรท่าอากาศยานเชียงใหม่  รับผิดชอบในการปฏิบัติงาน
                                                                                                                ด้านการตรวจของผู้โดยสาร  และการตรวจปล่อยสินค้า  ณ  ท่าอากาศยานเชียงใหม่
                                                                                                                รวมทั้งการสืบสวนและปราบปรามในเขตพื้นที่รับผิดชอบ  ซึ่งรวมถึงนิคมอุตสาหกรรม

                                                                                                                ลำพูนด้วย  ในการทำงาน  นอกจากการวางระบบและวิธีการทำงานในการตรวจ
                                                                                                                ของผู้โดยสารและการตรวจปล่อยสินค้า  เพื่อการอำนวยความสะดวกและการ
                                                                                                                ควบคุมทางศุลกากรแล้ว  ยังได้เป็นผู้ริเริ่มนำเสนอนายด่านศุลกากรท่าอากาศยาน
                                                                                                                เชียงใหม่เพื่อขอความเห็นชอบและขอเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ
                                                                                                                ของบประมาณจากเงินงบประมาณ  หรือเงินฝากค่าใช้จ่ายเก็บภาษีท้องถิ่นของ

                                                                                                                กรมศุลกากร  เพื่อดำเนินการปรับปรุงพัฒนาอาคารสถานที่  รวมทั้งบ้านพัก
                                                                                                                ข้าราชการให้เป็นที่ สัปปายะ  เพื่อความสะดวกสบาย  โดยปรับปรุงพัฒนา
                                                                                                                คุณภาพชีวิตในการทำงานให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหลายเรื่อง  ได้แก่  การติดตั้ง
                                                                                                                เครื่องปรับอากาศภายในอาคารที่ทำการด่านฯ  ทั้งอาคาร  เนื่องจากสภาพอากาศ
                                                                                                                ที่จังหวัดเชียงใหม่ในฤดูร้อนจะร้อนอบอ้าวมาก  อุณหภูมิบางวันสูงกว่า  40
               ภาพการสร้างศาลพระภูมิชัยมงคลและศาลเจ้าที่  (ศาลตา - ยาย)                                         องศาเซลเซียส  ที่ทำการด่านฯ  อยู่ใกล้สนามบินและติดถนนทางเข้า - ออกสนามบิน
               ณ  ด่านศุลกากรท่าอากาศยานเชียงใหม่  เมื่อปี พ.ศ. 2539
                                                                                                                มีมลพิษทางเสียงและฝุ่นละอองจากภายนอกและภายในบริเวณด่านฯ  รวมทั้ง
                                                                                                                จากพัดลมเพดานค่อนข้างมาก  จึงขออนุมัติติดตั้งเครื่องปรับอากาศทั้งอาคาร
                                                                                                                ทำให้สุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตในการทำงานดีขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก


                                                                                                                       อีกเรื่องคือ  เรื่องระบบน้ำใช้ที่อาคารที่ทำการด่านฯ  มีปัญหาเรื้อรังมานาน

                                                                                                                กล่าวคือ  ระบบน้ำประปามีปัญหามาก  ไหลบ้างไม่ไหลบ้าง  บางครั้งไม่มีน้ำประปา
                                                                                                                ใช้ติดต่อกันหลายวัน  เจ้าหน้าที่ไม่สามารถใช้ห้องน้ำห้องส้วม  หรือล้างถ้วย
                                                                                                                จานชามได้เพราะไม่มีน้ำ  หากมีความจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำห้องส้วมก็จะต้องขับรถ
                                                                                                                ไปใช้ที่อาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานเชียงใหม่  เป็นที่ทุลักทุเลและลำบาก
                                                                                                                มากทีเดียว  จึงได้ของบประมาณจากกรมฯ  ในการติดตั้งฝังแท็งก์น้ำใต้ดินขนาด
                                                                                                                12,000  ลิตร  พร้อมระบบปั๊มน้ำอัตโนมัติ  ทำให้มีน้ำใช้ได้ตลอดเวลา  แม้ระบบ

                                                                                                                น้ำประปาจะไม่ไหลติดต่อกัน  2 - 3  วันเหมือนแต่ก่อนก็จะไม่เป็นปัญหา  เพราะมีน้ำ
                                                                                                                สำรองไว้ใช้อยู่ในแท็งก์ใต้ดินถึงหมื่นกว่าลิตร  เพียงพอต่อการใช้น้ำตามความ
                                                                                                                จำเป็นในแต่ละวันและแต่ละสัปดาห์  ทำให้คุณภาพชีวิตส่วนนี้ดีขึ้นอย่างถาวร
                                                                                                                และยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน



            142                                                                                                                                                                    143
   139   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149