Page 145 - cover-biology-boontieam new28-8 i_coateduv
P. 145

ยังไม่มีภารกิจใดที่ต้องไปอยู่ดำเนินการที่นั่น  กรมศุลกากรจึงมีคำสั่งให้ปฏิบัติ

               หน้าที่ราชการ  ณ  ด่านศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพต่อไป  โดยได้รับมอบหมาย
               ให้ทำงาน  ณ  งานป้องกันและปราบปราม  ฝ่ายควบคุมลานบินต่อไป  จนถึง
               ปลายปีพ.ศ. 2537  จึงได้รับการโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายป้องกัน
               และปราบปราม  ด่านศุลกากรท่าอากาศยานเชียงใหม่  รับผิดชอบในการปฏิบัติงาน
               ด้านการตรวจของผู้โดยสาร  และการตรวจปล่อยสินค้า  ณ  ท่าอากาศยานเชียงใหม่
               รวมทั้งการสืบสวนและปราบปรามในเขตพื้นที่รับผิดชอบ  ซึ่งรวมถึงนิคมอุตสาหกรรม

               ลำพูนด้วย  ในการทำงาน  นอกจากการวางระบบและวิธีการทำงานในการตรวจ
               ของผู้โดยสารและการตรวจปล่อยสินค้า  เพื่อการอำนวยความสะดวกและการ
               ควบคุมทางศุลกากรแล้ว  ยังได้เป็นผู้ริเริ่มนำเสนอนายด่านศุลกากรท่าอากาศยาน
               เชียงใหม่เพื่อขอความเห็นชอบและขอเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ
               ของบประมาณจากเงินงบประมาณ  หรือเงินฝากค่าใช้จ่ายเก็บภาษีท้องถิ่นของ

               กรมศุลกากร  เพื่อดำเนินการปรับปรุงพัฒนาอาคารสถานที่  รวมทั้งบ้านพัก
               ข้าราชการให้เป็นที่ สัปปายะ  เพื่อความสะดวกสบาย  โดยปรับปรุงพัฒนา
               คุณภาพชีวิตในการทำงานให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหลายเรื่อง  ได้แก่  การติดตั้ง
               เครื่องปรับอากาศภายในอาคารที่ทำการด่านฯ  ทั้งอาคาร  เนื่องจากสภาพอากาศ
               ที่จังหวัดเชียงใหม่ในฤดูร้อนจะร้อนอบอ้าวมาก  อุณหภูมิบางวันสูงกว่า  40
 ภาพการสร้างศาลพระภูมิชัยมงคลและศาลเจ้าที่  (ศาลตา - ยาย)  องศาเซลเซียส  ที่ทำการด่านฯ  อยู่ใกล้สนามบินและติดถนนทางเข้า - ออกสนามบิน
 ณ  ด่านศุลกากรท่าอากาศยานเชียงใหม่  เมื่อปี พ.ศ. 2539
               มีมลพิษทางเสียงและฝุ่นละอองจากภายนอกและภายในบริเวณด่านฯ  รวมทั้ง
               จากพัดลมเพดานค่อนข้างมาก  จึงขออนุมัติติดตั้งเครื่องปรับอากาศทั้งอาคาร
               ทำให้สุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตในการทำงานดีขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก


                      อีกเรื่องคือ  เรื่องระบบน้ำใช้ที่อาคารที่ทำการด่านฯ  มีปัญหาเรื้อรังมานาน

               กล่าวคือ  ระบบน้ำประปามีปัญหามาก  ไหลบ้างไม่ไหลบ้าง  บางครั้งไม่มีน้ำประปา
               ใช้ติดต่อกันหลายวัน  เจ้าหน้าที่ไม่สามารถใช้ห้องน้ำห้องส้วม  หรือล้างถ้วย
               จานชามได้เพราะไม่มีน้ำ  หากมีความจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำห้องส้วมก็จะต้องขับรถ
               ไปใช้ที่อาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานเชียงใหม่  เป็นที่ทุลักทุเลและลำบาก
               มากทีเดียว  จึงได้ของบประมาณจากกรมฯ  ในการติดตั้งฝังแท็งก์น้ำใต้ดินขนาด
               12,000  ลิตร  พร้อมระบบปั๊มน้ำอัตโนมัติ  ทำให้มีน้ำใช้ได้ตลอดเวลา  แม้ระบบ

               น้ำประปาจะไม่ไหลติดต่อกัน  2 - 3  วันเหมือนแต่ก่อนก็จะไม่เป็นปัญหา  เพราะมีน้ำ
               สำรองไว้ใช้อยู่ในแท็งก์ใต้ดินถึงหมื่นกว่าลิตร  เพียงพอต่อการใช้น้ำตามความ
               จำเป็นในแต่ละวันและแต่ละสัปดาห์  ทำให้คุณภาพชีวิตส่วนนี้ดีขึ้นอย่างถาวร
               และยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน



 142                                                                               143
   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150