Page 383 - cover-biology-boontieam new28-8 i_coateduv
P. 383
ทุก ๆ ท่านคงเห็นตรงกับผมว่า บทกลอนดังกล่าวข้างต้นเป็นบทกลอน
ที่มีคุณค่า มีความหมาย และบรรยายเรื่องการเกษียณไว้อย่างชัดเจน ซึ่งผม
ต้องขอบคุณเจ้าของบทประพันธ์ไว้ ณ ที่นี้ด้วย
จากวันที่พากเพียร สู่วันเกษียณที่ภาคภูมิ
จากวันแรกที่เข้าเรียนในโรงเรียนศุลกากร พอเรียนจบก็เข้ารับราชการ
ในกรมศุลกากร และทำงานมาจนถึงวันเกษียณอายุราชการ รวมเวลาแล้ว
ประมาณเกือบ 42 ปี ผ่านประสบการณ์ชีวิตการทำงาน ที่ต้องอาศัยความ
พากเพียร ความพยายาม ความมานะบากบั่น อดทน หนักเอาเบาสู้ เสียสละ
และทุ่มเท ยอมทำงานทุกอย่างโดยไม่มีการเกี่ยงงอน ต่อสู้กับปัญหาอุปสรรค
นานัปการ ไต่เต้าจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติระดับซี 1 เป็นต้นมา ก้าวหน้าขึ้นมา
ตามลำดับ เร็วบ้าง ช้าบ้าง ตามวาสนาชะตาชีวิต ที่มีขึ้นมีลง มีสุข มีทุกข์
มีสรรเสริญ มีนินทา ตามโลกธรรม 8 ที่ทุกคนต้องประสบพบเจอ จนก้าวหน้า
ขึ้นมาถึงตำแหน่งรองอธิบดีกรมศุลกากร ที่ต้องใช้สิทธิและหน้าที่ในการสมัคร
เข้ารับพิจารณาคัดเลือกถึง 7 ครั้งจึงขึ้นสู่ตำแหน่งนี้ได้ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ
เพียงประมาณ 11 เดือน แต่ก็ได้ทำงานตามอำนาจหน้าที่และตามที่ได้รับ
มอบหมายตามอุดมการณ์ “เพื่อกรมศุลกากร” ที่อยู่ในใจได้มากพอสมควร
โดยมิได้ทำงานเพื่อรอวันเกษียณ แต่ตั้งใจที่จะทำงานในหน้าที่ความรับผิดชอบ
ทุกอย่างจนถึงวันสุดท้ายก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ เพื่อจะได้สามารถ
ภาคภูมิใจได้อย่างเต็มร้อยว่าได้ทำงานให้กรมศุลกากรตั้งแต่วันแรกจนถึงวัน
สุดท้ายของการรับราชการด้วยความพากเพียร เพื่อให้เกษียณได้อย่างภาคภูมิ
ซึ่งผมต้องจารึกไว้ในหนังสือนี้ว่า จากวันที่พากเพียร สู่วันเกษียณที่ภาคภูมิ ตาม
ที่เล่าเป็นประสบการณ์ชีวิตการทำงานมาตั้งแต่ต้นจนจบนั้น ผมมิได้ทำงาน
แต่เพียงตามลำพัง มิได้ทำงานคนเดียว แต่ผมมีผู้บังคับบัญชา มีผู้ใต้บังคับบัญชา
มีเพื่อนร่วมงาน และผู้เกี่ยวข้อง ที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกื้อกูล ให้คำแนะนำ
ร่วมกันทำงาน ฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคและร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน จนมีเรื่องราว
มาเล่าสู่กันฟังดังที่เล่ามาทั้งหมดตามที่ปรากฏในหนังสือเล่มนี้แล้ว
ผมขอขอบคุณกรมศุลกากร ที่ให้โอกาสผมได้อยู่ได้ทำงานและให้สิ่งดี ๆ
แก่ผมมาโดยตลอด ผมมักจะพูดกับผู้ใต้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานของผม
อยู่เสมอว่า กรมศุลกากรมีบุญคุณกับผมและทุก ๆ คนที่ทำงานในกรมศุลกากร
380 381
