Page 69 - cover-biology-boontieam new28-8 i_coateduv
P. 69

ทดสอบถึงความศักดิ์สิทธิ์  มิได้คิดลบหลู่หรือลองของแต่อย่างใด  เพราะ
               ตามปกติตอนที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนศุลกากรจะนั่งรถเมล์สาย  13  ไปกลับทุกวัน

               เนื่องจากเป็นรถเมล์สายเดียวที่ออกจากห้วยขวางผ่านปากซอยใกล้บ้าน  และ
               ปลายทางสิ้นสุดบริเวณใกล้สี่แยกกรมศุลกากร  โดยนั่งรถเมล์สาย  13  ตลอด
               ทั้งปีที่เรียนอยู่  และตอนทำงานที่กรมศุลกากรก่อนที่จะย้ายไปทำงานในต่างจังหวัด
               ก็ยังใช้บริการรถเมล์สาย  13  นี้อยู่  ซึ่งปกติการนั่งรถเมล์ไม่ว่าจะเป็นสายใด

               ก็จะมีคนเก็บเงินค่าโดยสารที่เรียกว่า  กระเป๋ารถเมล์  ซึ่งมีทั้งชายและหญิง
               ส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยเป็นที่สะดุดตา  กิริยามารยาทการพูดจาก็ปกติธรรมดา
               นั่งไปกลับอยู่เกือบทุกวัน  จนเมื่อใกล้จะเรียนศุลกากรจบ  ได้เจอกระเป๋ารถเมล์
               คนหนึ่ง  เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ  หน้าตาผิวพรรณดี  มีกิริยามารยาท  พูดจาไพเราะ

               มีหางเสียง  มีอัธยาศัยต่อผู้โดยสารเป็นอย่างดี  ต่างจากกระเป๋ารถเมล์คนอื่น ๆ
               ที่เคยเห็นมา  ยังคิดแปลกใจว่าบุคลิกลักษณะและกิริยามารยาทการพูดจา
               แบบนี้ทำไมจึงมาเป็นกระเป๋ารถเมล์  หรือว่ามาทำงานวิจัยภาคสนามเรื่อง
               ชีวิตกระเป๋ารถเมล์หรือเปล่า  และยังคิดว่ากระเป๋ารถเมล์แบบนี้ก็มีเหมือนกัน

 รูปองค์พระเหมือนกับองค์หลวงพ่อวัดไร่ขิงที่เป็นพระประธานในพระอุโบสถมาก    เพิ่งเคยเห็น  และได้มีโอกาสขึ้นรถเมล์คันที่มีกระเป๋ารถเมล์คนดังกล่าวอยู่แค่
 กำหนดจิตดูองค์พระเครื่องในมือกับองค์ที่เป็นพระประธานในโบสถ์  รู้สึกขนลุกซู่   เพียง  2 - 3  ครั้ง  เพราะโอกาสที่จะได้เจอบ่อย ๆ คงไม่ใช่เรื่องง่ายดังที่กล่าวมาแล้ว
 สัมผัสได้ถึงพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์  ก็เก็บพระเครื่องหลวงพ่อวัดไร่ขิงองค์ดังกล่าว   เมื่ออธิษฐานแบบนั้นก็ลุ้นอยู่เหมือนกันว่าจะเป็นไปได้หรือเปล่า  แต่แล้วปาฏิหาริย์

 ไว้กับตัวอีกองค์หนึ่ง  เช่นเดียวกับท่านเจ้าคุณนรฯ  ที่อาจารย์ศุภ  เหมินทร์    ก็เกิดขึ้นจนได้  เย็นวันนั้น  หลังจากรับประกาศนียบัตรโรงเรียนศุลกากรเรียบร้อย
 ให้มาบูชาติดตัวก่อนหน้านี้ดังที่ได้เล่ามาแล้ว  และเมื่อถึงวันรับประกาศนียบัตร   เสร็จสิ้นพิธีการต่าง ๆ และถ่ายรูปเสร็จ  ก็ออกจากโรงเรียนไปรอขึ้นรถเมล์สาย  13
 จากโรงเรียนศุลกากร  ในวันนั้นได้นำหลวงพ่อวัดไร่ขิงองค์นี้ติดตัวไปด้วย  และ   ที่ป้ายรถเมล์หน้ากรมศุลกากรเพื่อเดินทางกลับบ้านตามปกติ  พอก้าวขึ้นรถ
 ได้อธิษฐานจิตเพื่อทดสอบความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อว่า  “ถ้าศักดิ์สิทธิ์จริง    ก็พบว่า  รถเมล์คันนั้นมีกระเป๋ารถเมล์ที่ทำหน้าที่เก็บค่าโดยสารเป็นคนที่เรา

 หลังจากรับประกาศนียบัตรเสร็จแล้ว  ตอนเดินทางกลับบ้าน  ขอให้ได้ขึ้นรถเมล์   อยากเจอจริง ๆ  ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้  แต่ก็เป็นไปแล้วจริง ๆ  และหลังจาก
 สาย  13  คันที่คนเก็บค่าโดยสาร  (กระเป๋ารถเมล์)  เป็นคนที่เราอยากเจอด้วย   วันนั้นแล้ว  เวลาขึ้นรถเมล์สาย  13  อีกก็ไม่เคยเจอคันที่มีกระเป๋ารถเมล์คนนั้น
 เถิด”  ซึ่งการอธิษฐานในลักษณะแบบนี้  โอกาสที่จะเป็นจริงเกิดขึ้นได้ยากมาก    อีกเลย  จึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ  หลวงพ่อวัดไร่ขิงท่านศักดิ์สิทธิ์
 อาจจะเป็นหนึ่งในร้อยที่จะเป็นไปได้ก็ว่าได้  เพราะรถเมล์วิ่งไปกลับทุกวัน   สมคำร่ำลือจริง ๆ  จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เกินกว่า  40  ปีมาแล้ว  ยังคงทึ่งและศรัทธา

 หมุนเวียนวันละหลายคัน  คันละหลายรอบ  บางวันหากเครื่องยนต์ขัดข้องก็อาจ   ในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อวัดไร่ขิงตลอดมา
 ไม่ได้ออกวิ่ง  คนที่เป็นคนขับหรือกระเป๋ารถเมล์อาจจะได้ปฏิบัติหน้าที่ซ้ำคันเดิม
 เป็นประจำ  หรือมีการหมุนเวียนกันปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ซ้ำคัน  หรือไม่อย่างไร
 ก็ไม่อาจทราบได้  การอธิษฐานแบบนั้น  โอกาสที่จะเป็นไปตามคำอธิษฐาน
 จึงเป็นไปได้ยากมาก ๆ  ที่อธิษฐานในสิ่งที่เป็นไปได้ยากดังกล่าว  เพราะต้องการ






 66                                                                                 67
   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74