Page 459 - Book-LP-Pichit_524 PAGES_1800 Smallest
P. 459
ั
เถอะ พวกเราไปถึงก็พอดีเย็นแล้วจึงเข้าพักกันเลย บ้านหลังน้น
ื
ั
ื
ื
เป็นบ้านช้นเดียวยกพ้นสูงสักหน่อย พ้นเป็นอิฐเป็นปูน มีเคร่องเรือน
ึ
เป็นไม้ หลังคาเทปูนทำเป็นชนดาดฟ้า มบันไดขนไปข้างบนดาดฟ้า
้
ั
้
ี
ึ
่
ู
ี
้
ั
นนได้ บ้านน้มีอยสองห้อง ญาติโยมไปรวมกันอย่ห้องหนง ส่วน
่
ู
ึ
พระอยู่รวมกันอีกห้องหน่ง จัดการตัวเองแล้วต่างก็เข้าพักนอน ตกลง
ึ
่
้
่
ี
่
ิ
ี
กันว่าวันรงขนจึงเรมไปกราบไหว้ทบริเวณพุทธสถาน ทปรินิพพาน
ุ
่
ึ
้
่
ึ
ี
ี
ุ
่
่
ซงอยไม่ไกลออกไปนักจากท่พัก เช้าวันรงขนพวกเราก็ออกจากท่พัก
ู
ี
ค้างนอนแต่เช้า ออกเดินไปท่พุทธสถานท่เสด็จดับขันธปรินิพพาน
ี
ั
ี
สถานท่เสด็จดับขันธปรินิพพานของพระพุทธองค์น้น ทางอินเดีย
ึ
เขาสร้างเป็นสถูปองค์ใหญ่ทรงโอคว�่า ซ่งกล่าวว่าเป็นพระราชนิยมใน
สมัยพระเจ้าอโศกมหาราชแห่งอินเดีย บนยอดสถูปมีฉัตรสามช้น
ั
ด้านหน้าขององค์สถูปมีวิหาร ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปาง
ปรินิพพาน (พระพุทธรูปนอนบรรทมตะแคงเบื้องขวา) หันพระเศียรไป
ทางทิศเหนือ องค์พระมีความยาวประมาณ ๖.๑ เมตร วิหารนี้เรียกว่า
ิ
ั
ี
ู
ั
ิ
ั
พระมหาปรนพพานวิหาร ตงอย่ในฐานเดยวกนกบสถปปรินพพาน
ิ
้
ู
ั
เดิมในสมัยพุทธกาลเมืองกุสินาราน้นเป็นส่วนหน่งของแคว้นมัลละ
ึ
ซ่งเป็นสถานท่ต้งของ “สาลวโนทยาน” หรือสวนป่าไม้สาละ ดังท
่
ั
ึ
ี
ี
ปรากฏในพุทธประวัติว่า พระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานท
่
ี
‘ป่าไม้สาละ’ นั้นเอง….
ั
ิ
เมอไปถงหน้าแท่นองค์พระสถป พวกเราเดนขนบนไดเข้าไป
ึ
่
ู
ึ
ื
้
กราบนมัสการในพระมหาปรินิพพานวิหารก่อน ในวิหารประดิษฐาน
พระพุทธรูปปางปรินิพพาน ซึ่งพระพุทธรูปนอนบรรทมตะแคงเบื้องขวา
หันพระเศียรไปทางทิศเหนือ แต่การนอนแตกต่างจากพระพุทธรูป
ึ
ปางพุทธไสยาสน์ เพราะปางพุทธไสยาสน์ มีพระหัตถ์ขวายกต้งข้น
ั
มารองรับพระเศียร แต่พระพุทธรูปปางปรินิพพาน มีพระเศียรแนบ
l
ความเปนมาของเรา 445
็