Page 11 - Annual Report NRCT 2022
P. 11
ุ
ื
การสน้บสน้น้ควิามัรวิมัมัอ
่
ั
่
้
ดาน้การวิิจััยและวิิชาการกบติางประเทศ
ั
่
ิ
�
ื
สานักงานการวจัยแห่งชาต (วช.) มีความร่วมมือด้านการวจัยและวิชาการกับต่างประเทศมาอย่างต่อเนอง โดยใน
ิ
ิ
ื
ปงบประมาณ 2565 มความรวมมอ ดงนี ้
ั
ี
ี
่
่
์
็
การเปน้สมัาชกองคกรระหวิางประเทศ
ิ
็
่
่
ุ
ิ
ั
ั
้
์
์
้
้
้
ปจจบน วช. เขารวมเปนสมาชกองคกรระหวางประเทศทังสิน 4 องคกร ไดแก ่
ิ
์
้
1) สมาคมวทยาศาสตรภาคพืนแปซฟิิก (Pacific Science Association : PSA)
ิ
ิ
์
่
2) สภาวทยาศาสตรระหวางประเทศ (International Science Council : ISC)
ั
่
3) สมาคมสภาวจยสงคมศาสตรแหงเอเชย (Association of Asian Social Science Research Councils : AASSREC)
ี
ิ
์
ั
ั
ั
4) สภาวจยโลก (Global Research Council : GRC) โดยมเปาหมายรวมกน เพอแสวงหาแนวทางการแก้ไขปญหา
ิ
ื่
ั
่
ี
้
่
ู
ั
ิ
ั
ี
่
ั
่
่
ระดบภมภาคและปญหาส�าคญเรงดวนของโลก โดยมกจกรรมส�าคญในชวงที่ผานมา ดงนี ้
ิ
ั
ั
• การเข้้าร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารข้ององค์กรระหว่างประเทศึ โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อ�านวยการส�านักงาน
ั
ิ
ั
ิ
ื
็
้
ิ
ั
การวจยแหงชาต ไดรบเลอกเปนกรรมการบรหาร (Governing Board) ของสภาวจยโลก (Global Research Council : GRC)
ิ
่
ิ
ี
ซงทาใหประเทศไทยมบทบาทในเวทระดบนานาชาต เพมโอกาสในการรบทราบและประเมนลาดบความสาคญ (Priorities) และแนวโนม
้
ั
่
ั
่
ั
ิ
�
ั
ิ
�
ึ
�
้
ี
ั
ี
่
้
ั
ุ
(Trends) ดานการวจยและนวตกรรมจากมมมองระดบผูบรหารหนวยงานใหทนวจยของประเทศทีมบทบาทส�าคญในเวทโลก
้
ุ
้
ิ
ั
ั
ิ
ิ
่
ี
ั
• นักวิจัยไทยร่วมนำาเสนอผลังานวิจัยในการประชีุมข้ององค์กรระหว่างประเทศึ โดยมี ดร.นณริฏิ พิศลยบุตร
ี
ั
ั
ั
ิ
ั
นกวจยไทย ผแทน วช. นาเสนอผลงานวิจยในการประชุมใหญ่ประจาปี 2564 ของสมาคมสภาวิจยสงคมศาสตร์แหงเอเชย
�
�
ั
่
ู
้
ุ
ั
ั
่
่
(Association of Asian Social Science Research Councils : AASSREC) เมือวนที 26 ตลาคม 2564 รวมกบนกวจย
ั
่
ั
ิ
้
ิ
่
้
ิ
้
ื
ิ
จากประเทศสมาชิกอีก 14 ประเทศ ทาใหนักวจัยไทยไดรับทราบผลการศึกษาวจัยของนักวจัยประเทศอน ๆ และไดมีโอกาส
�
ั
่
ู
้
ู
้
ั
ี
่
ี
้
้
ู
แลกเปลยนขอมลรวมกนทาใหสามารถนาประสบการณ์ ขอมล ความรทไดรบจากการแลกเปลยนมาพฒนาศกยภาพและผลงาน
ั
�
่
ี
�
้
ั
่
ของตนเอง
่
ั
การวิิจััยและวิิชาการกบติางประเทศติามัข้้อติกลง
วช. มการวจยและวชาการกบตางประเทศตามขอตกลงใน 2 เรือง ดงนี ้
่
ั
ั
ี
ั
ิ
่
้
ิ
ิ
1) การศึึกษ์าวจยดิานการเปลัียนแปลังสภัาพิ่ภัมอากาศึภัายใตกรอบ Climate Change & Climate Variability
ู
้
ั
ิ
้
่
่
่
ี
ื
้
้
Research in Monsoon Asia (CMON3) ภายใตขอตกลงความรวมมอไทย - จน ระหวาง วช. และ The National Natural
้
ิ
ิ
ั
Science Foundation of China (NSFC) ประกอบดวย 4 มต ดงนี ้
ำ
้
• การทานายสภัาพิ่อากาศึ โดยการรวมข้อมูลปริมาณไอน�้าในชันบรรยากาศและปริมาณฝนรุนแรงจากหลายแหล่ง
ในภมภาคจนและอนโดจน ประกอบดวย ขอมลจากสถานฐานจเอนเอสเอส (GNSS Stations) ขอมลเรดโอซอน (Radiosonde
ี
ู
้
ี
ี
ู
้
้
ิ
ู
ิ
ิ
ี
็
ี
ิ
ี
ิ
่
็
ี
ั
ิ
้
ั
Stations) สถานวดลม ทีเปนเนือเดยวกน การเปลียนแปลงปรมาณไอน�าและหลากหลายมตทางเวลา ทังตามรายป ตามฤดกาล
้
ู
่
้
ิ
้
่
้
ิ
ี
ู
้
้
่
ี
ี
ั
ู
้
และในทนท ขอมลปรมาณไอน�าในอากาศทีมความละเอยดสงทังเชงพืนทีและเวลา และระบบตดตามเสนทางการเปลียนแปลง
่
ิ
ั
ั
้
�
่
�
่
ั
ุ
ี
�
ื
็
ั
เพอพฒนาระบบทานายสภาวะฝนรุนแรง วิธการ แบบจาลอง และระบบใหม่สาหรบเปนขอมลสนบสนนตอการเตือนภยลวงหนา
้
่
ู
้
ู
ั
ิ
ิ
�
ั
็
่
้
้
และการทานายระยะสนและระยะยาว เปนประโยชนตอการสรางระบบสาธารณปโภคพนฐาน และการพฒนาเศรษฐกจในภมภาค
์
ู
ื
่
่
�
ระเบยงเศรษฐกิจจน - คาบสมทรอนโดจน นอกจากนมีการขอขอมลจากหนวยงานเพอนาไปตอยอดการศึกษา เชน สถาบน
ั
่
ี
ื
ู
ี
้
ิ
ี
่
ี
้
ุ
ุ
ิ
ุ
ั
์
สารสนเทศทรพยากรน�า (องคการมหาชน) กรมอตนยมวทยา เปนตน
้
ิ
้
็
สำำ�นัักง�นัก�รวิิจััยแห่่งช�ติิ (วิช.) 9