Page 17 - ข้อเสนอปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทางอาญา โดย สสส
P. 17
ู
่
ขอเสนอ การีปฏิิรีปกรีะบวนการียุติิธิรีรีมทางอาญา โดยุเครีอขายุปรีะชาชน
้
ื
ุ
�
�
้
�
ั
ั
ำ
ำ
ุ
ั
�
ี
ี
สำาเหตปรีะการีหนุ่งททาใหคดลนุศาล นุกโทษลนุเรีอนุจานุนุ นุอกจากเก�ยวของกบปญหาการีกรีะทำาความ
�
�
�
ั
ี
�
่
ิ
�
ี
ั
ี
ั
้
้
้
�
ั
่
�
�
ิ
ผู้ดทยงคงอยในุอตรีาสำง รีวมถงการีขาดทางเลอกทเหมาะสำมในุการีจัดการีคดีแลว ยงเกดจากการีเนุนุใชโทษทาง
่
ุ
ี
ี
�
ื
ี
ี
ั
�
่
ั
ั
ี
�
อาญาในุการีจัดการีกับการีกรีะทำาทฝ่าฝ่นุบรีรีทัดฐานุทางสำังคม ดงเชนุทปรีากฎว่าปจจบนุมกฎหมายทมโทษทาง
อาญาจานุวนุมากกวา 400 ฉับบ แมโทษทางอาญาจะเปนุเครีองมอสำาคญในุการีรีกษาความสำงบเรียบรีอยและ
ำ
่
้
�
�
ำ
13
้
ั
ี
็
ั
�
ั
็
็
่
ั
่
ิ
ำ
จดการีอาชญากรีรีม แตการีใช�โทษทางอาญามากเกนุความจาเปนุ กอาจจะกอผู้ลกรีะทบในุทางลบมากกวาทาง
่
ั
ิ
บวก ทงการีกอใหเกดภารีะแกรีฐและปรีะชาชนุดงทกลาวไวแลว และกรีะทบตอสำทธิและเสำรีภาพของปรีะชาชนุ
�
ิ
่
่
�
ั
ี
ั
ี
�
่
ิ
�
่
�
็
่
เกนุจาเปนุ อกทง ยงเปนุชองทางใหมการีใชทรีพยากรีของรีฐเปนุเครีองมอในุการีเลนุงานุคขดแย�ง รีวมทงเปนุ
้
ี
ั
�
็
่
ั
�
ั
�
ำ
ี
ิ
็
้
�
้่
�
็
ั
ั
ั
ชองทางในุการีใช�กฎหมายอาญาเพ้�อขมข้และแสำวงหาปรีะโยชนุโดยมชอบของเจ�าหนุ�าทีด�วย
่
ิ
่
�
่
์
ู
ิ
แนวคดการปฏิิรป
็
แนุวคดการีลดทอนุความเปนุอาชญากรีรีม (Decriminalization) เปนุการีลดการีใช�โทษทางอาญาสำำาหรีบการีก
ั
็
ิ
่
�
�
ี
ำ
รีะทาบางอยางทีไมมความจาเปนุต�องใช�โทษทางอาญา โดยโทษทางอาญาควรีใช�สำำาหรีบความผู้ดรี�ายแรีงเทานุันุ
็
ิ
ำ
ั
่
่
้
ั
ั
ำ
ั
ี
�
่
ิ
้
�
�
ิ
่
่
่
เพรีาะโทษทางอาญาไมใชยาวเศษทจะชวยปองกนุหรีอยบย�งการีกรีะทาความผู้ดไดเสำมอไป ซงอาจจะมมาตรีการี
ี
่
ั
ิ
�
้
่
�
ำ
ุ
ี
�
�
�
ิ
�
ี
�
�
อนุทมปรีะสำทธิภาพมากกวาและมตนุทนุทตากวามาใชแทนุโทษทางอาญาได ทงนุรีฐธิรีรีมนุญแหงรีาชอาณาจกรี
่
�
ี
ี
ั
ั
ี
้
ั
ั
ิ
่
ำ
ั
ั
ไทย พ.ศ. 2560 มาตรีา 77 กได�รีบรีองแนุวคดดงกลาว โดยบญญต ‘ให�รีฐพ่งกาหนุดโทษทางอาญาเฉัพาะความ
็
ิ
ั
ิ
ผู้ดรี�ายแรีง’
ิ
ั
�
ิ
ำ
�
�
ั
�
�
ี
โดยหลกการีแลว การีพจารีณากาหนุดใหการีกรีะทาใดเปนุความผู้ดทตองมโทษทางอาญานุนุ ควรี
็
ำ
ี
ำ
่
ั
็
ี
พจารีณาจากความเสำยหายหรี้อผู้ลกรีะทบของการีกรีะทานุันุ ๆ รีะดบความเปนุอนุตรีายตอสำงคม ความชัวรี�าย
�
ั
�
ั
ิ
ั
ี
ิ
ั
ุ
หรี้อความก�าวรี�าวของการีกรีะทา ทังนุี ไมควรีบญญตความผู้ดอาญาโดยมวตถปรีะสำงคเพ้อการีแก�แค�นุทดแทนุ
่
์
�
ิ
�
ั
�
ำ
�
ุ
ี
่
ั
ี
เพยงอย่างเดยว ไมควรีใชกฎหมายอาญาเพ�อบรีรีลวตถปรีะสำงคอยางใดอย่างหนุงซงสำามารีถบรีรีลุไดอยางม ี
�
่
�
้
�
่
์
่
่
ุ
่
�
์
่
ิ
้
�
�
ี
ุ
ิ
ปรีะสำทธิภาพโดยมาตรีการีอนุทกอใหเกดความทกขทรีมานุนุอยกวา ไมควรีใชกฎหมายอาญาในุกรีณผู้ลรีาย
ี
�
ิ
่
�
�
่
ซงเกดจากการีลงโทษมมากกวาผู้ลรีายทเกดจากความผู้ด และไมควรีใชกฎหมายอาญาเพอการีบงคบใหบคคล
ุ
ิ
�
�
้
�
่
ี
ี
�
ั
ิ
่
ั
�
�
ิ
�
14
ำ
่
�
์
่
กรีะทาเพ้อปรีะโยชนุสำวนุตนุเทานุันุ
็
ำ
�
�
้
้
�
ั
้
13 ขอมลจากการีสำบคนุขอมลกฎหมาย เวบไซต์สำานุกงานุคณะกรีรีมการีกฤษฎีกา https://www.krisdika.go.th/ โดยเป็บการีนุับจากพรีะ
�
ั
่
ำ
ั
ิ
ิ
ั
ำ
ั
ิ
ิ
ำ
ี
ี
�
์
ั
�
ิ
รีาชบญญตและพรีะรีาชกาหนุดทมบทบญญตกาหนุดโทษทางอาญา ไดแก ปรีะหารีชวต จาคก กกขง ปรีบ รีบทรีพยสำนุ ฐานุใดฐานุหนุงหรีอหลายฐานุ
ั
่
ั
ี
ุ
้
ำ
ซงนุบไดมากกวา 400 ฉับบ ทงนุ ไมรีวมคาสำง/ปรีะกาศคณะรีฐปรีะหารีในุอดตทยงคงมผู้ลบงคบใชในุปจจบนุ และขอมลดงกลาวสำอดคลองกบคากลาว
ี
�
�
่
ี
�
ั
ั
ั
ี
้
�
่
ั
ำ
ั
่
ั
ั
�
่
ี
ั
ุ
�
�
ั
�
ั
่
ั
ำ
�
ั
ุ
ิ
ิ
ั
ั
ั
�
ี
�
ั
ของนุายธิวชชย ไทยเขยว รีองปลดกรีะทรีวงยตธิรีรีม ในุงานุสำมนุาทางวชาการี เรี้อง การีลงโทษทางอาญากบหลกสำทธิิมนุุษยชนุ ครีั�งที 2 หวข�อ เรี้อง
ั
ั
�
ิ
ั
ิ
ิ
�
ุ
ิ
ั
�
“มาตรีการีด�านุสำทธิิมนุุษยชนุเพ้อการีลดการีลงโทษทางอาญา” จดโดยคณะกรีรีมการีสำทธิิมนุุษยชนุแหงชาต กรีะทรีวงยตธิรีรีม และสำถาบนุเพ้อการี
ั
ิ
่
ยตธิรีรีมแหงปรีะเทศไทย (TIJ) เม้อวนุที 6 กนุยายนุ 2562 ทีรีะบวามกฎหมายทีมบทลงโทษทางอาญากวา 400 ฉับบ เข�าถ่งจาก
ุ
ิ
่
่
�
�
ั
ุ
�
ี
่
ี
�
ั
ั
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/846436
ิ
์
ิ
�
ั
ั
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
ุ
�
14 สำกล นุศารีตนุ, กฎหมายอาญาและการีลงโทษทเหมาะสำม : แนุวคดทางดานุปรีชญาและความยตธิรีรีมทางสำงคม, วทยานุพนุธิ นุตศาสำตรี ์
ั
ี
์
ั
์
ิ
ั
มหาบณฑิิต มหาวทยาลยธิรีรีมศาสำตรี, 2545 และ ปรีะธิานุ วฒนุวานุชย, การีปฏรี้ปรีะบบการีลงโทษ แนุวคดสำหวทยาการีโดยเนุ�นุทางด�านุอาชญา
ั
ิ
ิ
ิ
ิ
์
ิ
วทยา, บทบญฑิิตย เลม 52 ตอนุ 4 ธินุวาคม 2541
ั
่
ั
์
สมาคมสทธิเสรีภาพของปรีะชาชน (สสส.) 12
ี
ิ
ิ