Page 46 - ข้อเสนอปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทางอาญา โดย สสส
P. 46
้
ขอเสนอ การีปฏิิรีปกรีะบวนการียุติิธิรีรีมทางอาญา โดยุเครีอขายุปรีะชาชน
ู
่
ุ
ื
แนวคดในการปฏิิรป
ู
ิ
้
้
ั
กติการีะหว่างปรีะเทศว่าดวยสำิทธิิพลเมองและสำิทธิิทางการีเมอง (ICCPR) กาหนุดหลักปรีะกนุการี
�
ำ
็
ี
ิ
่
�
ิ
็
ั
ิ
พจารีณาคดอยางเปนุธิรีรีม อาท หลกความเสำมอภาคภายใตกฎหมายและศาล สำิทธิิที�จะเข�าถ่งศาลที�เปนุอสำรีะ
40
�
็
ี
�
เปนุกลาง และมอานุาจและตังข่นุตามกฎหมาย โดยหลกความเปนุกลาง (Impartiality) นุี เรีียกรี�องให�ผู้้ �
ำ
42
็
ั
41
�
พพากษาตดสำนุคดบนุพนุฐานุของขอเทจจรีงและสำอดคล�องกบกฎหมาย โดยปรีาศจากขอจากด อทธิพล การี
ี
ำ
�
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
ั
็
้
�
�
ั
ั
ุ
ั
่
ั
่
ชกจ้ง แรีงกดดนุ การีขมข้ การีแทรีกแซงไมว่าทางตรีงหรี้อทางอ�อมจากเหตใด ๆ รีวมทังไมนุารีสำนุยมทางการี
่
ิ
�
่
ำ
่
ั
ิ
ั
็
�
ั
ิ
ั
ิ
เม้อง ความเช้อทางศาสำนุา ความนุยมชมชอบสำวนุตวเข�ามาเปนุปจจยปรีะกอบการีตดสำนุ และผู้้พพากษาจะต�อง
�
ั
ิ
ั
ำ
็
ี
ั
�
่
ิ
่
ไมมความคดลวงหนุ�าใด ๆ (Non prejudgment) เกี�ยวกบปรีะเดนุทีกาลงพจารีณา และเพ้�อปรีะกนุความเปนุ
43
็
อสำรีะและเปนุกลางดงกลาว ในุการีพพากษาคด ผู้้พพากษาจะต�องให�เหตผู้ลในุการีตดสำนุคดเสำมอ อกทังในุการี
ิ
ิ
ี
็
ิ
ั
่
ุ
ิ
ี
ั
ี
�
�
ั
พจารีณาและพพากษาคดต�องเปดโอกาสำให�สำาธิารีณะชนุเข�าตรีวจสำอบด�วย นุอกจากนุี กตกาฯ ยงได�รีบรีอง
ิ
ี
ั
ิ
44
ิ
�
ิ
ิ
ิ
�
�
ั
ั
�
45
็
ุ
สำทธิิของผู้้ต�องหาหรี้อจาเลยทีจะได�รีบการีสำนุนุษฐานุไว�กอนุวาเปนุผู้้บรีสำทธิิ และได�รีบการีปฏบตในุฐานุะเปนุ
ั
ิ
่
็
ิ
ำ
่
ิ
ั
�
�
ุ
ี
ี
ั
ิ
ำ
่
�
�
ิ
ุ
่
�
ิ
�
ุ
่
�
ผู้้บรีสำทธิิตลอดรีะยะเวลา จนุกวาคดจะถ่งทีสำดโดยศาลพพากษาวาบคคลนุันุมความผู้ด ซงหลกการีนุีกาหนุดให�
ำ
ั
ั
่
็
ั
์
์
ั
46
ภารีะพสำ้จนุจนุสำิ�นุสำงสำยตกเปนุของฝ่่ายโจทก และปรีะกนุวาจาเลยจะได�รีบปรีะโยชนุจากความสำงสำย
ิ
์
อนุง ตามหลกวธิพจารีณาความอาญาทีด ได�กาหนุดให�วธิพจารีณาความอาญทีดต�องปรีะกอบไปด�วย
ี
ำ
�
ิ
�
ี
47
ิ
�
ิ
ี
่
ิ
ั
ี
ั
ำ
�
ั
�
�
่
ี
ั
ั
่
�
หลกการีสำำาคญ ซงมสำวนุทีเกียวข�องกบการีดาเนุนุการีในุชันุศาลดงนุี �
ิ
ั
�
้
�
�
ิ
ิ
ี
1. หลกการีค�นุหาความจรีงในุเนุอหา เจ�าพนุกงานุที�เกียวข�องต�องมหนุ�าทีตรีวจสำอบค�นุหาความจรีงแท�
ั
ำ
�
้
�
ุ
�
ิ
ของเรีอง ในุการีดาเนุนุคดอาญาชนุศาล ทกฝ่ายตางมหนุาทกรีะตอรีอรีนุในุการีตรีวจสำอบคนุหาความจรีงแทของ
ิ
้
ี
ี
ี
�
�
้
�
่
่
ั
�
้
้
�
เรีองทกลาวหา และศาลจะวางเฉัยไม่ได ในุการีตรีวจสำอบคนุหาความจรีิงของศาลนุ�นุ จะไม่ผู้กมดกบรีปแบบหรีอ
้
ั
่
�
�
ี
ั
้
ั
�
ี
่
ำ
คารี�องของผู้้�ใดเชนุเดยวกนุ 48
ั
2. หลกฟัังความทกฝ่่าย เปนุหลกการีทีคานุ่งถ่งความเสำมอภาคของบคคล ทังฝ่่ายโจทกและจาเลย ซง � ่
ำ
ั
์
ุ
ำ
็
ุ
ั
�
�
�
ำ
่
ี
้
�
ี
ำ
ี
ี
ิ
็
็
ทาให�ฝ่่ายจาเลยหรี้อผู้้ถ้กกลาวหามฐานุะเปนุปรีะธิานุในุคด มสำทธิิตางๆทีจะสำามารีถตอสำคดได�อยางเตมที 49
�
�
่
่
่
่
ิ
่
ิ
40 กตการีะหวางปรีะเทศวาด�วยสำทธิิพลเม้องและสำทธิิทางการีเม้อง ข�อ 2 (1)
ิ
ิ
่
่
41 กตการีะหวางปรีะเทศวาด�วยสำทธิิพลเม้องและการีเม้อง ข�อ 14 (1)
ิ
่
ิ
42 กตการีะหวางปรีะเทศวาด�วยสำทธิิพลเม้องและสำทธิิทางการีเม้อง ข�อ 14 และอนุุสำญญาสำทธิิมนุุษยชนุยโรีป ข�อ 6 (1)
ิ
ิ
่
ั
ุ
ิ
43 Communication 387/1989, Avro O. Karthhunen v. Finland, อ�างถ่งในุ International commission of jurists
์
ิ
ิ
์
ิ
์
ิ
ั
44 อภสำคค พรีหมวาสำค, ความเปนุอสำรีะของผู้้�พพากษา, วทยานุพนุธินุตศาสำตรีมหาบณฑิิต มหาวทยาลยธิรีรีมศาสำตรี, 2534, นุ. 13 – 16
ั
ิ
ิ
ิ
ั
์
์
็
ิ
ิ
่
ิ
45 กตการีะหวางปรีะเทศวาด�วยสำทธิิพลเม้องและการีเม้อง ข�อ 14 (2)
่
�
ั
ิ
�
่
็
46 คณะกรีรีมการีสำทธิิมนุุษยชนุ ความเหนุทัวไป ฉับบที 13, ยอหนุ�า 7
้
ิ
ิ
ิ
์
�
�
ี
ิ
ิ
ุ
47 คณต ณ นุครี, กฎหมายวธิพจารีณาความอาญา, พมพครีังที 8, กรีงเทพฯ :วญญูชนุ, 2555 หนุ�า 46- 47
ิ
48 คณต ณ นุครี, อ�างแล�ว, หนุ�า 67 – 69
ิ
49 คณต ณ นุครี, อ�างแล�ว, หนุ�า 69 – 70
ี
สมาคมสทธิเสรีภาพของปรีะชาชน (สสส.) 41
ิ
ิ