Page 58 - เล่ม 1
P. 58
ึ
่
ี
็
สมเด็จพระเจ้าตากสนมหาราชทรงเล็งเหนว่า ชางไทยสมัยธนบุรมีเหลืออยู่น้อยมากจงโปรดเกล้าฯ ให ้
ิ
่
่
้
่
ุ
ื้
ื
ั
่
รวบรวมและฟนฟการชางทกแขนงขึ้นใหม่ เชน ชางตอเรอ ชางก่อสราง ชางรก ชางประดับ และชางเขียน แต ่
ู
่
่
่
่
ี
ี
่
่
่
่
ื
ิ
เนองจากมีเวลาจ ากัด บ้านเมืองอยูในระหวางสงคราม ส่งของทเปนฝมือชางชั้นดประณตงดงามจรง ๆ ในสมัย
ิ
ี
่
ี
็
่
ุ
ธนบรจงหาได้ยาก ทมีใหเหนอยูบ้าง ได้แก่
ี
่
ี
ึ
็
้
่
ิ
็
ิ
่
ี
พระแทนบรรทม ของสมเดจพระเจ้าตากสนมหาราช ประดษฐาน อยูทวัดอินทาราม ฝ่งธนบร
ั
่
ี
ุ
ิ
ั
ิ
พระแท่นส าหรับทรงเจรญวิปสสนากัมมัฏฐาน ประดษฐานอยู่ภายในพระวิหารเล็กหน้า
ุ
ั
ี
ุ
พระปรางค์วัดอรณราชวราราม ฝ่งธนบร
้
ู
ิ
ี
ต้ลายรดน ้า ที่มีศักราชแจ้งชัดว่าสรางในสมัยกรงธนบุร อยู่ในหอสมุดวชรญาณ ภายในหอสมุดแหงชาติ ท่า
่
ุ
วาสกร กรงเทพฯ
ี
ุ
ุ
็
ั
ิ
ท้องพระโรงพระราชวังเดม ซงเคยเปนที่ประทับและเสด็จออกว่าราชการ ปจจุบันอยู่ในการดูแลของ
่
ึ
ื
กองทัพเรอ
พระราชโอรส พระราชธิดา
สมเด็จพระเจ้าตากสนมหาราช ทรงมีพระราชโอรส ๒๑ พระองค์ พระราชธดา ๙ พระองค์
ิ
ิ
ุ
้
ู
ี
สมเด็จพระมหาอุปราช เจ้าฟากรมขุนอินทรพิทักษ์ (จ้ย) ประสติในสมเด็จพระอัครมเหส กรมหลวงบาทบร ิ
็
็
ิ
จา ถูกส าเรจโทษในรชกาลที่ ๑ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ เปนต้นราชสกุล "สนศุข" และ "อินทรโยธน"
ิ
ั
ิ
็
้
ู
สมเด็จเจ้าฟาชายน้อย ประสติในสมเด็จพระอัครมเหส กรมหลวงบาทบรจา ถูกส าเรจโทษในรัชกาลที่ ๑ เมื่อ
ี
พ.ศ. ๒๓๒๕
พระองค์เจ้าชายอัมพวัน ประสติในเจ้าจอมมารดาทิม บุตรของท้าวทรงกันดารมอญ
ู
ิ
้
ิ
สมเด็จเจ้าฟาชายทัศพงศ์ ประสติในกรมบรจาภักดศรสดารักษ์ (เจ้าหญิงฉม) ธดาของเจ้าเมือง
ิ
ี
ี
ุ
ู
ี
นครศรธรรมราช (หน) เปนต้นราชสกุล "พงษ์สน"
ู
็
ิ
้
สมเด็จเจ้าฟาหญิงโกมล (ไม่ทราบนามพระมารดา)
สมเด็จเจ้าฟาหญิงบุปผา (ไม่ทราบนามพระมารดา)
้
สมเด็จเจ้าฟาชายสงหรา (ไม่ทราบนามพระมารดา)
้
ิ
สมเด็จเจ้าฟาชายศิลา (ไม่ทราบนามพระมารดา) เปนต้นราชสกุล "ศิลานนท์"
็
้
ิ
ู
พระองค์เจ้าชายอรนกา ประสติในเจ้าจอมมารดาอ าพัน ธดาพระยาอินท์อัคราช ต้นสกุล "จันทโรจวงศ์" ถูก
ิ
ส าเรจโทษในรชกาลที่ ๒ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๒
ั
็
พระองค์เจ้าหญิงสมาลี (ไม่ทราบนามพระมารดา)
ุ