Page 261 - เมืองลับแล(ง)
P. 261

้
               เมือง ไม่ว่าจะเป็น เกิดน้ำไหลจากดอยท่วมบ้านเรือน พัดพาเอาดินโคลนมาท่วมที่ “สระหนองหลวง” แลว
               ชาวเมืองได้ไปปลูกข้าวที่ “ดินหนองดอนมูน” ข้าวก็ไม่ขึ้นงอกงาม


               เนื้อความที่ ๓๒


                 พระเจ้าเชียงใหม่ในกุมม่าน ยกพลเศิกมาหมายกินสรีโยธิยาเวียงไธยใต้ กองเสิกพระญาม่านเชียงใหม่เข้า

                                                                                                 ู่
                 ตีเวียงกวาดข้าวกล้าปลาหลาย แลคนชายใหญ่หน้อย ด้วยว่าจักเอาเป็นข้ากองเสิก พลเศิกหมมานกพา
                                                                                                  ่
                                                                                                      ็
                 กันจับต้อนชาวเวียง กับคนใดเจ็บไข้ได้ยาก กนคนได้เถ้าหนานำ กันคนใดเป็นละอ่อนน้อยกำมีดแล
                 กำพร้าดาบบ่ได้ จุ่งจักละไว้ แลยู้ฆ่าลางพ่องก็ตำใส่ครกมอง ลางพ่องก็มัดโจ่งลงน้ำ ลงพ่องก็จำขงหื้ออด
                                                                                                   ั
                 ตาย ฝ่ายหมู่พลเศิกชายหาญชาวโยนเชียงใหม่ในกุมม่านนั้น  แลหันทุกขกัมม์ตัวหน้าบ้าใบ้ ก็มีใจสลด

                 หดเส้ ด้วยว่าหมเชื้อเครือโยนสืบมาแต่หนหลัง ก็มีใจเคียดแค้นโกธาหมู่พลเศิกจาวม่าน แต่งลักกมผ้าห่ม
                               ู่
                                                                                                  ุ
                 ปิดหน้าปิดตัวออกฆ่าสู้หมู่จาวม่านตายต่อนัก  กาละนั้นหมื่นฅำกองตนเจ้าก็ม้างตายละ เวียงลับแลงไจย
                 ทุกขตะบ่ไสหมองขี น้ำตามีนองหน้า ฝูงชาวข้ายากไร้เป็นบ้านปุเวียงพ่ายนั้น ชะแล


                       กล่าวถึงเหตุการณ์ ในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ กล่าวถึง “สาวัตถีนรถามังคยอ” พระราชโอรสพระเจ้า

               บุเรงนองที่ได้มาครองเมืองเชียงใหม่เมื่อ พ.ศ. ๒๑๒๑ จนเมื่อ พ.ศ. ๒๑๒๘ “ศก ๙๔๘ ตัว ปลีดับเร้า เชียงใหม่

                                      61
               ยกทัพไพรบเมืองใต้ บ่ได้”   จะเห็นได้ว่าในขณะนั้นกษัตริย์เชียงใหม่เป็นเจ้าเชื้อสายราชวงศพม่ามาปกครอง
                                                                                            ์
               แล้ว ซึ่งพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐฯ ได้บอกว่า พระเจ้านันทบุเรงได้ให้พระเจ้าสาวถี
                                                                                                        ั
               (เชียงใหม่) ยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๑๒๗ แล้ว แต่สมเด็จพระนเรศวรฯ ได้ตีทัพพม่าและทพ
               เชียงใหม่จนแตก และใน พ.ศ. ๒๑๒๘ พระเจ้าสาวถี (เชียงใหม่) ได้ยกทัพลงมาอีกครั้งหนึ่ง มาตั้งทัพที่ตำบลสะ
               เกษ จนทัพของสมเด็จพระนเรศวรฯ สามารถตีทัพพระเจ้าสาวถี (เชียงใหม่) ได้สำเร็จ   ตรงกันกับข้อมูลใน
                                                                                        62
               ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่

                       แต่ด้วยมีศึกสงครามเกิดขึ้นในช่วงสองปีนี้ทำให้กองทัพหม่าและทัพเชียงใหม่มีการเกณฑ์ไพร่พลทีอยู่
                                                                                                       ่
               กระจัดกระจายตามเมืองต่าง ๆ ตำนานพระเจ้ายอดคำทิพย์จึงพรรณนาความไม่เป็นมงคลเกิดขึ้นมากมาย

               ในตอนนี้ และหมื่นคำกอง เจ้าเมืองลับแลงไชยได้เสียชีวิตในศึกสงครามในครั้งนี้ด้วย

                       แต่จากที่สมเด็จพระนเรศวรฯ ได้เทครัวชาวหัวเมืองเหนือไปอยู่ที่กรุงศรีอยุธยาช่วงเดือน ๙ พ.ศ.
               ๒๑๒๗ หลังจากเสร็จศึกพระยาสวรรคโลก – พระยาพิชัย แล้วเหตุใด ? หมื่นคำกองและชาวลับแลยังได     ้

               ปกครองเมืองลับแลงไชยต่อ ทั้งที่น่าจะถูกเทครัวลงไปที่กรุงศรีอยุธยาแล้วในก่อนหน้านั้น





                       61  ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับ เชียงใหม่ ๗๐๐ ปี, ๒๕๓๙, หน้า ๙๗.
                       62  ตรงใจ  หุตางกูร, ๒๕๖๑, หน้า ๑๕๒ – ๑๕๓.

                                             การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
                                                        หน้า ๑๑๑
   256   257   258   259   260   261   262   263   264   265   266