Page 295 - เมืองลับแล(ง)
P. 295
ุ
ศักราช ๘๒๕ มะแมศก (พ.ศ. ๒๐๐๖) สมเด็จพระบรมไตรโลกเจ้า ไปเสวยราชสมบัติเมืองพิษณโลก
แลตรัสให้พระเจ้าแผ่นดินเสวยราชสมบัติพระนครศรีอยุธยาทรงพระนามสมเด็จบรมราชา ครั้งนั้นมหาราช
ท้าวลูกยกพลมาเอาเมืองสุโขทัย จึงสมเด็จพระบรมไตรโลกเจ้าแลสมเด็จพระอินทราชาเสด็จไปกันเมือง แล
สมเด็จพระราชาเจ้าตีทัพพระยาเถียนแตก แลทัพท่านมาปะทัพหมื่นนคร แลท่านได้ชนช้างด้วยหมื่นนคร แล
้
ี่
้
ครั้งนั้นเป็นโกลาหลใหญ่ แลข้าเศิกลาวทั้งสชางเข้ารุมเอาชางพระที่นั่งชางเดียวนั้น ครั้งนั้นสมเดจพระอินทรา
็
้
ชาเจ้าต้องปืนณพระพักตร์ แลทัพมหาราชนั้นเลิกกลับคืนไป
ศักราช ๘๓๐ ชวดศก (พ.ศ. ๒๐๑๑) ครั้งนั้นมหาราชท้าวบุญ ชิงเอาเมืองเชียงใหม่แก่ท้าวลูก
ศักราช ๘๓๗ มะแมศก (พ.ศ. ๒๐๑๘) มหาราชขอมาเป็นไมตรี
ศักราช ๘๔๙ มะแมศก (พ.ศ. ๒๐๓๐) ท้าวมหาราชลูกพิราไลย
เหตุที่เรียกว่า “ท้าวลูก” อาจมีสาเหตุมาจากความไม่เข้าใจคำว่า “ลก” ของผู้คัดเอกสาร หรือ การ
จัดพิมพ์พงศาวดารในชั้นหลังได้เติมสระอู จึงเป็น “ลูก” ไปในที่สุด
๑๗. โคลงยอพระเกียรติสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ หรือ ยวนพ่าย โคลงดั้น (ลิลิตยวนพ่าย)
ี
สันนิษฐานว่า เห็นจะแต่งในรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดที่ ๒ ซึ่งเป็น พระราชโอรสสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
ระบุคำสรรพนามเจ้าพระญาติโลกราชแห่งเชียงใหม่ว่า “กรุงลาว” / “มหาราช”
จากข้อมูลที่ได้มานี้ อาจสรุปได้ว่าพระนามของกษัตริย์แห่งล้านนา พระองค์ที่ ๙ นี้ มีการเรียกว่า
อโสก ติลก และ ติโลก ซึ่งควรจะพิจารณาให้ชัดเจนว่าคำใดจึงควรเป็นพระนามของพระองค์ท่าน
เริ่มจากคำว่า อโสก เป็นพระนามของกษัตริย์อินเดียโบราณผู้ครองแคว้นมคธ มีประสูติกาลหลง
ั
พระพุทธเจ้าสิทธัตถะปรินิพพานแล้ว ๒๑๘ ปี ได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ผู้ทรงอานุภาพ สามารถรวบรวมดินแดน
อินเดียอันกว้างขวางไว้ในพระราชอำนาจได้ และพระองค์ทรงเป็นพุทธศาสนูปถัมภกผู้ยิ่งใหญ่ กษัตริย์ใน
ดินแดนที่รับพระพุทธศาสนาจากอินเดียจึงเชื่อว่าพระบารมีแห่งพระเจ้าอโศกมหาราชเป็นที่ยิ่งใหญ่จึงเฉลิม
้
พระนามกษัตริย์ของดินแดนตนไว้ใกล้เคียงกับพระเจาอโศกมหาราช อาทิ เมืองนครศรีธรรมราช มีกษัตริย์ทรง
พระนามว่า “พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช” / เมืองสุโขทัย มีกษัตริย์ทรงพระนามว่า “มหาธรรมราชา” และ
“พระญาศรีธรรมศุกราช”
ในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ได้กล่าวถึงพระนามของพระเจ้าอโศกอยู่ ๒ แห่งคือ
้
็
(๑) ตอนที่ “ชีม่าน” หรือนักบวชชาวพม่าที่รับจางสมเดจพระบรมไตรโลกนาถเข้ามาทำลายอาถรรพ์
ของเมืองเชียงใหม่ได้กล่าวกับหมื่นช้างกุมกามกับพันเทพพกุลที่กษัตริย์เชียงใหม่ให้ไปถามว่าสามารถทำให้
ิ
พระองค์มีพระชนมายุยืนและอยู่เย็นเป็นสขได้หรือไม่ โดยชีม่านชื่อมังหลุงหลว้างตอบว่า “...สาสตรสปปคณ
ุ
ุ
ั
อันหื้อวุฑฒิจำเริญแก่บ้านเมืองแลหื้อพระญาเจ้าตนเสวิยเมืองมีเตชานุภาวะปราบชัมพูทวีปทั้งมวล เปนด่งพ
ี
ระญาธัมมอโสกราชะ มีอายุยืนหมั้นอยู่สวัสด”
มหาสรีธัมมติโลกราชะ : ติโลกราชกับอำนาจเหนือดินแดนเหนือล่าง
หน้า ๗