Page 34 - เมืองลับแล(ง)
P. 34
การปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนของนามเมือง ‘ลับแล’
ั่
ี
ุ
ในรชกาลของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ส่งคณะราชทูตไปกรงปารส ประเทศฝรงเศส
ั
เมื่อ พ.ศ. ๒๒๒๙ (ค.ศ. ๑๖๘๖) ในคณะราชทูตที่นำโดยพระวิสุทธสุนทร (ปาน) ในคราวนนได้ราง
่
ั้
ุ
ี
ุ
ื่
คำถามและคำตอบเกี่ยวกับกรงศรอยธยาเพอตอบคำถาม เรยกว่า “คู่มือตอบคำถามสำหรับทูต”
ี
ื
ิ
หรอ “คู่มือทูตตอบ” ซึ่ง ไมเคิล ไรท์ ไดเผยแพรลงในนตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับมีนาคม ๒๕๔๘
่
้
ื่
์
ในบทความเรอง “ภูมิศาสตร-ประวัติศาสตร์สยาม : เอกสารชั้นต้นสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ที่เปิดเผย
9
ใหม่ (ตอนที่ ๒)”
ข้อความดังกล่าวปรากฏในตอนที่กล่าวถึงหัวเมืองฝ่ายเหนือของราชอาณาจักรอยุธยาดังน ี้
“(๗๒๓) หากถามว่า สยามมีประชาชนหนาแน่นไหม ?
ให้ตอบว่า ประชาชนหนาแน่นมากและมีชาวต่างชาติมาจากทุกประเทศ
หากถามว่า สยามมีประเทศราชอะไรบ้าง อาณาจักรไหนบ้างอยู่รอบข้าง ?
ให้ตอบว่า เมืองเหนือประกอบด้วย ๘ แคว้น คือ (๑) แคว้นพิษณุโลก (Porcelouc), (๒) แคว้นสวรรค
โลก, (๓)แคว้นสุโขทัย, (๔) แคว้นกำแพงเพชร, (๕) แคว้นราชสีมา, (๖) แคว้นเพชรบูรณ์ และ (๗)
แคว้นพิชัย [ข้อมูลต้นฉบับหายไป ๑ แคว้น]
จากข้อมูลของเมืองบรวารของเมืองพชย มีเมืองรอง ๗ เมือง คือ เมืองบางโพ, เมืองฝาง,
ิ
ั
ิ
เมืองลับแล, เมืองพพฒน, เมือง Ppateboune (ปัตบูร), เมือง Trevantri Soune (ตรอนตรสินธุ์), เมือง
ี
ิ
ั
ี้
ื่
ิ
์
Phiboune Patthiimme (เมืองพมูลพฒน) ข้อมูลนเองทำให้ทราบว่ามีการปรากฏขึ้นของชอเมือง “ลับ
ั
่
แล” อย่างเป็นทางการในเอกสารทางประวัติศาสตร์ ซึ่งหากจะกล่าวว่าเมืองลับแลปรากฏขึ้นอยางเป็น
ู่
ทางการเมื่อใด คงเกิดขึ้นในช่วงก่อน พ.ศ. ๒๒๒๙ ไม่เชนนนคงไม่อาจที่จะอยในข้อมูลของคณะราชทูต
่
ั้
ได้
9 https://www.silpa-mag.com/history/article_8657
เมืองลับแล(ง) ประวัติศาสตร์และข้อค้นพบใหม่
หน้า ๒๒