Page 349 - เมืองลับแล(ง)
P. 349
ครั้งที่ ๒ จังหวะล้างแค้น : อโยธยายกทัพไปตีล้านนา
เมื่อ พ.ศ. ๑๙๙๗ (ปีกุน) เจ้าพระญาติโลกราชได้ยกทัพไปตเมืองในเขตล้านช้างกลุ่มเมืองชวา(หลวง
ี
พระบาง) แล้วยกทัพยกทัพหลวงไปตีเมืองในเขตสิบสองพันนาคือกลุ่มเมืองเชียงรุ่ง จากนั้นเมื่อ พ.ศ. ๑๙๙๘
(ปีชวด) ได้ยกทัพไปตีเมืองเชียงรุ่งเป็นครั้งที่ ๒
เมื่อ พ.ศ. ๑๙๙๘ เจ้าพระญาติโลกราช ทรงปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ แล้วมีการสร้างวัดขึ้นชื่อว่า วัด
มหาโพธาราม (คือวัดเจ็ดยอด) ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเชียงใหม่ แล้วใช้เป็นที่ชำระพระไตรปิฎก
เมื่อ พ.ศ. ๒๐๒๐
ในระหว่างนั้น สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถใคร่รู้ความเมืองทางเชียงใหม่ จึงใช้ให้หานพรหมสะท้าน
ปลอมเป็นอุปนิขิตเข้ามาในเมืองเชียงใหม่เพื่อสืบดูความทั้งปวง และในช่วงเวลาเดยวกันนั้นเจ้าพระญาติโลก
ี
ราชได้ให้หานไสสูงตัดผมนุ่งผ้าปลอมเป็นชาวใต้ (อยุธยา) ไปสืบดูความเช่นกัน หานพรหมสะท้านได้เข้ามาท ี่
ี
ู
เมืองเชียงใหม่เห็นต้นไม้นิโครธมีร่มใหญ่กว้างเป็นศรีเมือง ค่ำวันหนึ่งได้ปลอมตัวเข้าทางประตเชยงเรือก นาย
ประตูจึงจับพิรุจได้แล้วนำตัวไปให้แก่หมื่นจ่าบ้านไต่ถามความรู้ว่าเป็นคนที่พระญาใตให้ปลอมตัวมาเพื่อดความ
้
ู
เคลื่อนไหวในเมืองเชียงใหม่ หานพรหมสะท้านได้ขอให้ไว้ชีวิต แล้วจะขอเป็นข้าที่เชียงใหม่ แตเจ้าพระญาติโลก
่
ั
้
ราชไม่รับเอาไว้ไดให้นำตัวไปเฆี่ยนและโกนผม เมื่อจะขับหานพรหมสะทานไปนั้นได้แสร้งแต่งอุบายเตรียมทพ
้
ว่าจะยกไปตีทางฝายเหนือเพื่อจะให้หานพรหมสะท้านนำข่าวไปแจ้งแก่พระญาใต้ (สมเด็จพระบรมไตรโลกนา
่
รถ) แล้วแสร้งเอาหานพรหมสะท้านออกไปทางประตูหัวเวียง (ประตูช้างเผือก) ให้อยู่ศาลากลางตลาดให้เห็นริ
ี่
พลทัพเชียงใหม่เพื่อยกทัพไป แล้วให้หานเด็กชายเอาตัวหานพรหมสะท้านไปส่งทแดนเมืองใต้เพื่อแจงข่าวนี้ให้
้
สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถยกทัพขึ้นมา ถ้าหานพรหมสะท้านไม่น่าไว้ใจให้ตัดหัวทันที เมื่อหานพรหมสะทาน
้
ถึงเมืองสองแควได้กราบทูลความแก่สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถว่าเจ้าพระญาติโลกราชยกทัพไปตีเมืองทาง
เหนือ
เมื่อสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถทรงทราบแล้วจึงปรึกษาพระอินทราชา (พระราชโอรส) และเสนา
ี
อำมาตย์เพื่อจะยกทพขึ้นมาเอาเมืองเชยงใหม่ให้ได้ ตรงกับ พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐฯ
ั
ที่ว่า “ศักราช ๘๑๘ (พ.ศ. ๑๙๙๙) ชวดศก แต่งทัพให้ไปเอาเมืองลสบทีน ครั้งนั้นเสด็จหนุนทัพไปตงทพหลวง
ั้
ั
ิ
ตำบลโคน” ชื่อ เมืองลิลบทีน นี้พระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ เขียนเป็น “ศรีสพเถิน” การยกทัพ
ผ่านตำบลโคน ควรตรงกับบ้านโคนใต้ ตำบลคณฑี อำเภอเมืองกำแพงเพชร และชื่อ “ลิสบทีน” จะตรงกับ “ล ี้
ิ
ั
สบเถิน” ซึ่งเป็นทางแยกไปเมืองลี้ (จังหวัดลำพูน) และเมืองเถิน (จังหวัดลำปาง) แสดงว่าการเดนทพในครั้งนี้
ยกขึ้นไปทางลำน้ำปิง โดยมีทัพหลวงตั้งที่ตำบลโคน ทัพหน้าล่วงขึ้นไปตามแม่น้ำปิงผ่านเมืองตาก จากนั้นแยก
ขึ้นตามแนวแม่น้ำวังไปยึดเมืองทเป็นจดบรรจบกันของเขตแดนเมืองลี้กับเมืองเถิน ซึ่งอาจอยู่บริเวณตำบลแม่
ุ
ี่
ปะ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ได้บอกว่า “มาทางนครขึ้นมาตั้งทับอยู่ฟากน้ำแม่
ราชธานีกล้ำโพ้น” ซึ่งน้ำแม่ราชธานีหมายถึงแม่น้ำยม เป็นไปได้ว่าการยกทัพมาของสมเดจพระบรมไตรโลก
็
มหาสรีธัมมติโลกราชะ : ติโลกราชกับอำนาจเหนือดินแดนเหนือล่าง
หน้า ๖๑