Page 352 - เมืองลับแล(ง)
P. 352

๓) ในกรณีที่ “สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถให้พระเจ้าแผ่นดินเสวยราชสมบัติพระนครศรีอยุธยา ทรง

               พระนามสมเด็จพระบรมราชา” นั้น มิได้ระบุชี้ชัดว่า “พระบรมราชา” มีความสัมพันธ์อย่างไรกับสมเด็จพระ
                                                                         ็
                                                      ์
               บรมไตรโลกนารถ ซึ่งอาจเป็นพระราชโอรสองคใหญ่หรืออาจเป็นสมเดจพระอนุชาธิราช (น้องชาย) จงมีความ
                                                                                                   ึ
               คลุมเครือว่า “พระบรมราชา” กับ “พระอินทราชา” เป็นคนละองค์กัน

                       ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่และพงศาวดารอยุธยา จึงต่างกันและมีการกล่าวถึง

               เหตุการณ์สงครามใน พ.ศ. ๑๙๙๙ ไว้อย่างรวบรัดและกล่าวว่าพระอินทราชาได้ตีทัพพระญาเถียน (ยุธิษฐระ)
                                                                                                       ิ
               แตกพ่ายแพ้ไป ทั้งที่ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ระบุว่าพระญายุธิษฐิระมีชัยชนะในครั้งนี้ และมิยอมกล่าวถึง
               เหตุการณ์ใน พ.ศ. ๒๐๐๒ ที่เป็นความพ่ายแพ้ของฝ่ายอโยธยาเอง ซึ่งถือเป็นการเสียเกียรติของฝ่ายตนเอง

                                     ่
               อย่างมากที่พ่ายแพ้ให้กับฝายล้านนา

                       เมื่อเสร็จศึก เจ้าพระญาติโลกราชได้ให้รางวัลแก่แม่ทัพทั้งหลาย สำหรับพระญาสองแคว ตำนาน

               พื้นเมืองเชียงใหม่ ได้บอกว่า “หื้อเมืองงาว กาว เมืองแปลทังแฅว่นทังฟ่อน ทังคราว(=ขนาด, รุ่นราว, ครั้ง,

               หน, วิธีการเคลื่นย้ายสัมภาระ, เสมอกัน, เท่ากัน)น้ำ คราวบกเปนราววัลแก่เจ้าพระญาสองแฅว เพราะ
               พระญาสองแฅวอาสาไพชนช้าง ๓ ตัวหั้นแล” เจ้าพระญาติโลกราชได้ให้พระญายุธิษฐิระกำกับดูแลเมืองงาว

               เมืองกาว (น่าน) เมืองแปล (แพร่) ทั้งแคว่น (=ทุกตำบล) ทั้งฟ่อน(=ทุกแห่งหน) ทั้งดินแดนทางบกจรดทางน้ำ

                                                                                                       ่
               โดยมีเมืองพะเยาเป็นศูนย์กลางในการบัญชาการควบคุมทรัพยากรทั้งหลาย ซึ่งใน ชินกาลมาลีปกรณ์  ได้กลาว
               ว่า



                     เจ้านครพะเยาพระนามว่า ยุทธสัณฐิระ ทรงอัญเชิญพระพุทธรูปแก่นจันทร์มาประดิษฐานบูชาใน
                     วิหารวัดดอนชัย คือ ณ ปีชวด จุลศักราช ๘๑๘ พระศาสดาปรินิพพานล่วงแล้วได้ ๒๐๐๐ ปี

                     พระพุทธรูปแก่นจันทร์ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารวันดอนชัย


               จากข้อความนี้จะตรงกับ พ.ศ. ๑๙๙๙ (นับปีอย่างปัจจุบัน) พระเจ้าแก่นจันทร์อยู่ที่วัดดอนชัยในเมืองพะเยา

               ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๙๙๙ ดังนั้นพระญายุธิษฐิระ จึงครองพันนาพูคาตั้งแต พ.ศ. ๑๙๙๔ - ๑๙๙๙ เป็นระยะเวลา ๕
                                                                        ่
               ปี เมื่อ พ.ศ. ๑๙๙๙ เจ้าพระญาติโลกราชจึงแต่งตั้งให้เป็น “เจ้าสี่หมื่น” มาครองเมืองพะเยา จึงได้ควบคุมเมือง
               งาว เมืองแพร่ เมืองน่าน (กลุ่มล้านนาตะวันออก)  การที่พระญายุธิษฐิระได้ครองเมืองพะเยาและมี

               ผลประโยชน์เหนือเมืองต่างๆ ทได้รับให้กำกับดูแลนั้น เนื่องจากขณะนั้นพึ่งรวมเอาดินแดนทั้งสามเมืองมา
                                          ี่
               ขึ้นกับเมืองเชียงใหม่ ใหม่ๆ เจ้าพระญาติโลกราชคงเห็นว่าพระญายุธิษฐิระเป็นเจ้านายราชวงศ์สุโขทัยมาแต ่
                                                                                               ึ
                                                                                                  ่
               เดิมและมีความสัมพันธ์กับเมืองเหลานี้มาก่อน การบำเหน็จดินแดนเหลานี้ให้แก่พระญายุธิษฐิระจงเทากับเป็น
                                            ่
                                                                          ่
               แผนการในการปกครองดินแดนที่พึ่งได้มาใหม่อย่างชาญฉลาด
                             มหาสรีธัมมติโลกราชะ : ติโลกราชกับอำนาจเหนือดินแดนเหนือล่าง


                                                        หน้า ๖๔
   347   348   349   350   351   352   353   354   355   356   357