Page 487 - เมืองลับแล(ง)
P. 487

บทที่ ๑
                                                         บทนำ




               ๑.  ที่มาและความสำคัญของปัญหา


                       “เวียงซาก” หรือ “เมืองซาก” ตามประวัติศาสตร์การรับรู้ของนักวิชาการประวัติศาสตร์เป็นเมือง
               ที่พระญาไสลือ (พระมหาธรรมราชาธิราช ที่ ๒) กษัตริย์สุโขทัย นำพ่อท้าวยี่กุมกาม เจ้าเมืองเชียงราย มาไว้
               ที่เมืองซาก ซึ่งพ่อท้าวยี่กุมกามหรือเจ้ายี่กุมกาม พระราชโอรสองค์ที่ ๒ ของเจ้าพระญาแสนเมืองมา
               พระมหากษัตริย์ผู้ปกครองรัฐล้านนาพระองค์ที่ ๗ แห่งราชวงศ์มังราย หลังจากทเจ้าพระญาแสนเมืองมา
                                                                                     ี่
               สวรรคต ราชบัลลังก์ของล้านนาต้องสั่นคลอนเนื่องจากเหล่าเสนาอำมาตย์ได้ให้เจ้าพระญาสามฝั่งแกน
               พระราชโอรสองค์ที่ ๓ ของเจ้าพระญาแสนเมืองมาสืบสันติวงศ์ต่อจากพระราชบิดา โดยเจ้ายี่กุมกามถูกริดรอน
                                              ี่
                                                                                                     ้
               สิทธิอันชอบธรรมตามฐานันดรศักดิ์ทควรจะเป็น กล่าวคือ สืบสันติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์ปกครองรัฐลานนา
               ต่อจากพระราชบิดา เหตุการณ์นี้ถูกระบุในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ โดยมีการขอความช่วยเหลือจาก
               พระมหาธรรมราชาธิราช ที่ ๒ (ไสลือ) แต่งทัพนำทหารขึ้นตีเชียงใหม่ แต่ไม่สามารถนำกำลังพลเข้ายึดเมือง
               เชียงใหม่เพื่อทวงบัลลังก์คืนได้  อีกทั้งเมื่อพระญาไสลือได้ประทับยังเมืองเชียงรายได้ทอดพระเนตรเห็นดอย
                                              ื
               ช้างเป็นรูปหนู เป็นเหตุให้พระญาไสลอ นำเจ้ายี่กุมกามมาอยู่ทเมืองซากซึ่งในเอกสารพงศาวดารโยนกไดระบุ
                                                                   ี่
                                                                                                      ้
                                             ้
               ข้อมูลว่า พระญาไสลือไทได้นำพ่อทาวยี่กุมามมาไว้ที่เมืองซาก อันตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำซากซึ่งเป็นแควของแม่น้ำ
               ยมจากเหตการณดังกล่าวข้างต้น ที่กล่าวถึงในเอกสารประวัติศาสตร์ทั้งสองเอกสารก็ไม่สามารถระบุตำแหน่ง
                              ์
                         ุ
               ของเมืองซากที่กล่าวถึงได้ เพียงทราบข้อมูลว่าอยู่ในอาณาเขตการปกครองของรัฐสุโขทัยเท่านั้น
                       สืบเนื่องจากที่วันท ๒๗  เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑ ทางกลุ่มฟื้นฟูอัตลักษณ์ไทยวนลับแลงนำโดย
                                       ี่
                                            ู
                                   ้
               ดาบฟ้า  ไชยลับแลง ไดประสานศนย์ศึกษาเอกสารโบราณ (ศ.อ.บ.) มาจัดระเบียบใบลานของวัดท้องลับแล
               ตำบลฝายหลวง  อำเภอลับแล  จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้พบกับบันทึกตำนานฉบับเก๊าพระเจ้ายอดคำทิพย์
               วัดลับแลงหลวง (วัดท้องลับแล) ซึ่งพบข้อความระบุถึงว่า เมืองลับแล(ง)มีบริเวณตั้งอยู่ที่ราบลุ่มแม่น้ำน่านและ
               แม่น้ำยมเรียกชื่อว่า “เมืองซากสระหนองหลวง” และมีสาระสำคัญกล่าวถึงกรณีที่พระญาไสลอ(ไท)นำเจาทาว
                                                                                                     ้
                                                                                                       ้
                                                                                            ื
               ยี่กุมกามและชาวเชียงรายมาอยู่บำรุงเมืองซากในเขตการปกครองของรัฐสุโขทัย
                       จากการค้นพบเอกสารดังกล่าวอีก ๑ ฉบับ มีข้อความคล้ายกับฉบับแรกเหมือนกับฉบับแรก ทำให้ผ ู้
               ศึกษามีประเด็นคำถาม คือ (๑) ตำแหน่งที่ตั้งของเมืองซาก ?  (๒) คำว่า “ชากังราว - ชคราว - ชากราว –
                                                                                       ี
               ชวาชกํ - สักเตาไชยะ อาจมีความเกี่ยวข้องกับเมืองซาก ?  และ (๓) วิเคราะห์เปรียบเทยบความหมายของคำ
               ว่า “ชากังราว - ชคราว – ชากราว -  ชวาชกํ - สักเตาไชยะ” เพื่อพิสูจน์สมมุติฐานเมืองซากต่อไป








                                       การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
                                                          หน้า ๑
   482   483   484   485   486   487   488   489   490   491   492