Page 368 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 368
ติลกสวรรคตแล้ว พระราชนัดดาของพระองค์พระเนาม เจ้ายอดเชียงราย ประสูติเมื่อปีชวด (จ.ศ. ๘๑๘ = พ.ศ.
๑๙๙๙) มีพระชนมายุได้ ๓๑ ปี ครองราชย์สมบัติใน ปีมะแม (ตรงกับ พ.ศ. ๒๐๓๐) ดังนั้น ศักราชที่ระบุใน
พงศาวดารเมืองเงินยางเชียงแสน ที่กล่าวถึง พระยาอติโลกราชได้สละราชย์ให้พระยายอดเชียงราย พ.ศ.
ั้
๒๐๔๒ จึงเป็นความคลาดเคลื่อนของศักราชในหลักฐานที่ถูกประมวลขึ้นในชนหลัง และจะเห็นได้ว่าเอกสาร
หลักฐานที่กล่าวถึงการสิ้นรัชกาลของเจ้าพระญาติโลกราช เกิดขึ้นในปีมะแม เคลื่อนเพียง พงศาวดารเมืองเงิน
ี่
ยางเชียงแสน (ใน ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๖๑ เท่านั้น) แต่เหตุทเรียก “พระยาหลวงเมืองสาด” อาจหมายถึง
เจ้าพระญายอดเชียงราย เนื่องจากถูกคณะขุนนางปลดแล้วเชิญไปอยู่ที่เมืองสาด (เมืองซะมาด) แล้วอัญเชิญ
ราชสมบัติถวายเจ้ารัตนราชบุตร (พระเมืองแก้ว) เป็นกษัตริย์ครองเมืองเชียงใหม่ ใน พ.ศ. ๒๐๓๘ จึงได้รับ
สมญานามว่า “พระยาหลวงเมืองสาด”
ในรัชกาลเจ้าพระญาติโลกราชถือเป็นยุครุ่งเรืองของล้านนา พระองค์พยายามสร้างเชียงใหม่ให้เป็น
ศูนย์กลางอำนาจที่ยิ่งใหญ่ จึงทำสงครามอย่างกว้างขวางทุกด้าน ทั้งรัฐฉาน (ไทใหญ่) สิบสองปันนา เชียงรุ่ง
และพื้นที่อาณาบริเวณรัฐสุโขทัยเดิม (เหนือตอนล่าง) ในช่วงรัชสมัย ๔๖ ปีนี้ อาณาจักรล้านนามีความ
เจริญรุ่งเรืองทุกด้าน สืบต่อมาจนถึงสมัยของพระญาแก้ว พระราชปนัดดาของพระองค์ (พ.ศ. ๒๐๓๘ - ๒๐๖๘)
มหาสรีธัมมติโลกราชะ : ติโลกราชกับอำนาจเหนือดินแดนเหนือล่าง
หน้า ๘๐