Page 461 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 461

บทที่ ๔


                                                วิถีวัฒนธรรมเมืองด้ง



                                                            ้
                                                                                     ั
                      ชาวเมืองด้งมีวิถีทางวัฒนธรรมอย่างชาวไทยลานนา คล้ายกับพื้นที่ชาวเมืองลบแลเป็นอย่างมาก ซึ่ง ๒
               ชุมชนนี้มีการติดต่อไปมาหาสู่และเป็นเครือญาติกันอยู่เสมอ ปรากฏเรื่องเล่าในทางเครือญาติจากอาจารย์

                                                                                                        ้
               เพนียด  นาคหมู ว่า พระเมืองด้ง (จันทร์) ท่านได้เป็นพระเมืองด้งท่านสุดท้าย มีลูกชายคือ นายเครื่อง แล้วไดมี
                                                                                                   ้
                                                                                         ุ้
                                                                     ้
                                            ั
               ภรรยาชื่อ นางแตะ เป็นชาวเมืองลบแล  ต่อมานางแตะ ภรรยาไดสั่งให้ข้าทาสบริวารรื้อคมพระเมืองดงทบ้าน
                                                                                                      ี่
                                                 1
               ตึกแล้วนำทรัพย์สมบัติของมีค่ามาที่ลับแล  แล้วได้ตั้งชื่อนามสกุลว่า “จันทร์ด้ง” ถือเป็นสายสกุลของพระเมือง
               ด้ง (จันทร์) เป็นการย้ำเตือนสัมพันธภาพระหว่างชาวบ้านตึกและชาวลับแลได้เป็นอย่างดี ซึ่งยังปรากฏ
                                                                                                         ้
               “หำยน” คุ้มพระเมืองด้งเก็บรักษาไว้ที่บ้านของทายาทเป็นอย่างดี และยังมีตุงกระด้างจากคุ้มพระเมืองดง
               นำมาประดิษฐานไว้ในวิหารวัดท้องลับแล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ รวมทั้งลัญจกรหรือดวงตราประจำ
               ตำแหน่งพระเมืองด้ง (งาช้างประทับชาด) ก็ยังเป็นถูกรักษาในตระกูล “จันทร์ด้ง” เปนอย่างด  ี
                                                                                    ็
                      ซึ่งลำน้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงชาวตำบลบ้านตึก คือ “แม่ราก” น่าจะมาจากคำว่า “ทะราก” (ทราก)

                                                                                          ้
               ซึ่งการเขียนในรูป “ทร” อ่านเป็น “ซ” คือคำว่า “ซาก” เป็นการเขียนคำควบกล้ำไม่แท และสอดคล้องกับ
                                      2
               ข้อมูลใน พงศาวดารโยนก   ที่บอกว่า “พระยาไสลือไทยจึงแต่งให้ท้าวยี่กุมกามไปครองเมืองซาก (อยู่แม่น้ำ
               ซากแควยม)” จึงเป็นไปได้ว่าเมืองซากเป็นต้นน้ำของห้วยน้ำแม่รากที่ไหลผ่านตำบลบ้านตึกและไหลลงแม่น้ำยม

               ที่ตำบลป่างิ้ว อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย น่าจะเป็นพื้นที่เมืองลับแล และจากวิถีวัฒนธรรมของพื้นท ี่
               ตำบลบ้านตึกกับพื้นที่ชุมชนเมืองลับแลได้แสดงความสัมพันธ์นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น ผ้าทอ ภาษา

               สำเนียงการพูด และเป็นแหล่งปลูกผลไม้ที่สำคัญของจังหวัดอีกด้วย อีกทั้งมีประเพณีของชุมชนที่คล้ายกันคือ

               ประเพณีงานแห่น้ำขึ้นโฮง






















                      1  ดาบฟ้า  ไชยลับแล และภัทรภูมินทร์  ชัยชมภู, ฟ้อนโบราณเมืองลับแลง, เชียงใหม่ : มูลนิธิสืบสานล้านนา และ
               สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), ๒๕๖๑, หน้า ๑๙ – ๒๒.
                      2  พระยาประชากิจกรจักร (แช่ม  บุนนาค), ๒๕๑๕, หน้า ๓๑๕.

                                     เจ้าหมื่นด้งนคร : ผีอารักษ์ และมายาคติทางประวัติศาสตร์

                                                        หน้า ๗๗
   456   457   458   459   460   461   462   463   464   465   466