Page 622 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 622

ภาพที่ ๙๐ ทายธัมม์หมายเลข ๒๑ พละสังขยา ผก ๒ปรากฏคำว่า ด่าน,อ่าย
                                        ้
                                                                      ู
                                                                         ั
                                     ที่มา:วัดท้องลับแล ตำบลฝายหลวง อำเภอลบแล, ๒๕๖๔

                              ๖.๒.๑๓ โบราณสถานด่านเมืองลับแลง
                              จากการลงพื้นที่ตำบลนานกกกของผู้ศึกษาและคณะกรรมการศึกษาประวัติศาสตร์เมืองลับ

               แล (เมืองลับแลง) ได้พบแหล่งโบราณสถานที่บ้านชายเขาบก หมู่ที่ ๔ ตำบลนานกกก อำเภอลับแล จังหวัด
               อุตรดิตถ์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ตั้งเรือนของพ่อขาปัน อยู่ทา บ้านเลขที่ ๓ หมู่ที่ ๔ ตำบลนานกกกก อำเภอลับแล ซึ่ง
               อยู่ติดกับห้วยชายเขา อีกส่วนตั้งอยู่ในสวนติดกัน โดยเรียกว่าโบราณสถานนั้นว่า “ด่าน” เมื่อลงตรวจสอบ
               พื้นที่ดังกล่าวพบเนินดนกว้างประมาณ ๒ เมตร และยาวประมาณ ๕๐ เมตร ซึ่งตามคำสัมภาษณ์ของนายปัน
                                  ิ
               อยู่ทา (สัมภาษณ์เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔)ให้ข้อมูลว่า เดิม แนวกำแพงด่าน มีความยาวประมาณ
               ๑๕๐ เมตร ปัจจุบันเหลือเพียง ๕๐ เมตร (ตามภาพที่ ๘๗) เนื่องจากมีการตัดถนนผ่านกำแพงทำให้แนวกำแพง
               ด่านโดยทำลาย ในส่วนของความสูงไม่สามารถบอกความสูงได้เนื่องจากแนวกำแพงพังทลายลงมาก แนวฐาน
               ด่านมีแกนกลางเป็นดิน บริเวณเนินดินพบก้อนอิฐดินจี่ที่มีส่วนผสมของแกลบปะปนอยู่ ผู้ศึกษาและ

               คณะกรรมการศึกษาประวัติศาสตร์เมืองลับแล (เมืองลับแลง) พบว่าความยาวของก้อนอิฐดินจี่มีลักษณะ
               เหมือนกับดินจี่ในโบราณสถานวัดม่อนใหญ่ที่มีอายุราวประมาณพุทธศตวรรษที่ ๒๐ (พ.ศ.๑๙๐๐-๒๐๐๐) แตมี
                                                                                                        ่
               ความหนานเป็นพิเศษซึ่งหนาประมาณ ๗ เซนติเมตร กว้าง ๑๘ เซนติเมตร และยาว ๓๐ เซนติเมตร  (ตามภาพ

               ที่ ๘๘,๘๙,๙๐) นอกจากนั้นผู้ศึกษาและคณะกรรมการได้ข้อมูลจากสัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า แต่เดิมนั้นบริเวณด่าน
               นี้เป็นที่ตั้งศาลปู่เจ้าด่านภายหลังมีการย้ายศาลไปตั้งยังบริเวณหลังโรงเรียนนานกกก (ตามภาพที่ ๙๑)
                                                               ่
                                                        ่
                              จากการพบแหล่งโบราณสถานดานดังกลาว ผู้ศึกษามีความคิดเห็นว่า ด่านนี้คือด่านของเมือง
               ลับแล เพราะเนื่องจากตั้งอยู่พื้นที่ของอำเภอลับแล และเป็นเส้นทางโบราณสายหลักอีกเส้นหนึ่งที่จะไปบ้าน
                                                                                                ่
                                                                              ้
                                                                                                      ั
               ด่านนาขาม ปางต้นผึ้ง และขึ้นเขาพลึง และเป็นด่านศุลกากรตรวจค้นการเขาออกเมือง และเป็นดานสำคญใน
                                                                                                   ้
                                                                                                 ั
                                                                             ่
                                                                                                       ิ
               การป้องกันข้าศึกที่มารุกรานในเขตเมืองลับแลง ดังจะเห็นจากการก่อฐานดานเป็นแกนดินและก่อทบดวยดนจ ี่
               ที่มีความหนาพิเศษอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนั้นที่ตั้งของด่านยังมีปราการธรรมชาตินั้นคือ ห้วยชายเขาบกที่ไหล
               ผ่านหน้าที่ตั้งของด่าน (ตามภาพที่ ๙๖ และ ๙๗)

                                       การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
                                                        หน้า ๑๓๖
   617   618   619   620   621   622   623   624   625   626   627