Page 819 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 819
ลาวพากันวิ่งหอบเสื่อหอบหมอนวิ่งข้ามน้ำไปฟากฝั่งตะวันออกเป็นจำนวนมาก ทราบความว่าเจ้าราชวงศ์และ
ทหารเวียงจันทน์ประมาณสองร้อยสามร้อยคนถืออาวุธมากวาดต้อนครัวบ้านอรัญญิก บ้านอ้อย บ้านกล้วย ท่างาม
จะเอาไปเมืองเวียงจันทน์ เพราะเจ้าเวียงจันทน์ได้ทูลขอครัวจากพระเจ้าอยู่หัว และมีพระบรมราชโองการ
่
ั
พระราชทานครัวเหลานี้ให้แก่เจ้าเวียงจันทน์แล้ว ตนเองทราบดังนั้นก็ตกใจกลวรีบพายเรือกลับมาทบ้านเรือนของ
ี่
ตนแต่ก็ไม่พบภรรยาและลูก ยุ้งข้าวเหย้าเรือนของครัวต่างๆก็ล้วนเป็นปรกติด ี
ี่
วันขึ้นห้าค่ำ เดือนหก ปีกุนนพศก ตนจึงได้ออกติดตามครัวลาวทยังออกเดินทางไปไม่หมดนั้นเพื่อตามหา
บุตรและภรรยา ได้ออกเดินทางไปกับอ้ายนันทะซึ่งก็พลัดกับบิดามารดา เห็นบรรดาครัวรี่ยราดตามรายทางเป็นหมู่
่
เป็นเหล่า หมู่ละสามสี่ห้าครัวบ้าง ออกจากท่าราบถึงดงพญาใชเวลาคืนหนึ่งก็ยังไม่พบ และไม่เห็นว่าจะมีคายของ
้
เจ้าราชวงศ์ในป่าดงนี้ ใช้เวลาในการเดินทางในป่าดงห้าวัน ออกจากปากดงอีกสองวันก็ถึงเมืองนครราชสีมา ตนเอง
ได้หลบหลีกทหารเพื่อตามหาครอบครัวของตนก็ไม่พบเห็น พวกทหารลาวแบ่งครัวแยกออกเดินทางเป็นสองทางคอ
ื
ั
ไปตามลำน้ำพชี และไปทางเมืองภูเขียว ตนเองและอ้ายนันทะมาทางเมืองภูเขยว เดินมาได้สองคืนก็ถึงเมืองชยภูมิ
ี
เห็นทหารเวียงจันทน์ราวสี่ร้อยคนไล่กวาดต้อนครัวเมืองไชยภูมิพร้อมทั้งเจ้าเมืองชัยภูมิและครอบครัวท่านให้ไปทท ี่
ี่
่
เมืองภูเขียว เมื่อมาถึงเมืองชัยภูมิก็ให้เจ้าเมืองชัยภูมิและครอบครัวเข้าไปอยู๋ในเมืองนั้น ส่วนครัวลาวอื่นๆให้เดินตอ
เลยเมืองภูเขียวไป ตนเองหยุดอยู่ที่เมืองภูเขียวสองคืน แล้วทหารก็ไล่ต้อนครอบครัวเจ้าเมืองชัยภูมิพร้อมกับกวาด
้
เอาครัวเมืองภูเขียวออกเดินทาง ตนเองและอ้ายนันทะเดินต่อไปได้อีกสองคืน ตนเองก็เจ็บป่วยลงรากจงไดหลกไป
ึ
ี
ี
้
ี่
่
ั
อาศัยพักที่บ้านร้างในป่าทบ้านกุดตะเคยน อ้ายนันทะอยู่ช่วยดูแลรักษาไดราวหกคืนก็มีครัวชายหญิงเมืองหลมสก
ประมาณยี่สิบคนแวะมาหาข้าวกิน ครัวลาวเหล่านี้ได้บอกว่าทหารเวียงจันทน์ตั้งทัพอยู่ที่หนองบัวลำพู มีคำสั่งให้นำ
ครอบครัวเจาเมืองชัยภูมิไปทคายนี้ และทหารได้ฆ่าครัวลาวชายหญิงราวยี่สบคนเสีย หลังจากนั้นครัวเมืองหลมก็
ิ
่
ี่
้
่
เอาข้าวเปลือกในตะล่อมใส่หาบออกจากบ้านร้าง
้
ครั้นเมื่อหายป่วย ตนและอ้ายนันทะก็ได้ออกเดินทางต่อ นอนค้างอยู่ในป่าสองคืนก็มาถึงทางใหญ่จึงไดพบ
กองทัพไทย ตนและอ้ายนันทะดีใจมากทิ้งหาบไว้ข้างทางรีบเขาไปหากองทัพไทย ทหารไทยก็ให้ตนและอ้ายนันทะ
้
กลับไปนำหาบแล้วออกเดินทางพาไปหาเจ้าพระยามหาโยธา ตนจึงได้ให้การไปตามจริง ต่อมาพวกทัพไทได้เอา
เชือกผูกเอวของตนกับอ้ายนันทะ ออกเดินทางมาพร้อมกับพวกไพร่มอญประมาณ ๓๐๐ คน มาส่งค่ายกรมหมื่น
นเรษโยธี กรมหมื่นเสนีย์บริรักษ์ ที่หนองบัวลำพู จากนั้นเจ้าพระยามหาโยธาก็พาเดินต่อมาอีกห้าคืนลงมาถึง
แม่น้ำพชี ตนก็ถูกจับขังใส่ตะรางไว้ นายกองทัพหลวงไม่ได้การลงโทษเฆี่ยนตแต่อย่างใด จากนั้นจึงส่งมาให้
ี
เจ้าพระยาธรรมาที่เมืองโคราช แล้วเจ้าพระยามหาโยธาก็พาตนเองและอ้ายนันทะมาถึงที่กรุงเทพฯ
เมื่อพิจารณาเอกสารคำให้การจากเชลยลาวในคราศึกเจ้าอนุวงศ์นี้ นอกเหนือจะทำให้ทราบรายละเอียด
่
ของที่ตั้งค่าย เส้นทางที่ใช้ในการอพยพเชลยเหล่านี้ และบรรยากาศของการเดินทางอันยากลำบากแล้ว สิ่งหนึงท ี่
สังเกตุได้คือการระบุถึงชาติพันธุ์ของชาวลาวที่ร่วมมาในขบวนอพยพครานั้นว่าเป็นลาวพุงดำ โดนเฉพาะอย่างยิ่ง
ลาวพุงดำชาวเชียงใหม่
พระลับแลในศึกเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ และร่องรอย เชลยลาวพุงดำ ลาวพุงขาว ในสมัยรัชกาลที่ ๓
~ หน้า ๓๘ ~