Page 17 - 5555
P. 17
ื
ี
เช้อโรค >> มการบวมของเยื่อบุหลอดลม >> เยื่อบุหลอดลมอักเสบ >> ขัดขวางการท าหน้าที่ของขนกวัก >> ท าให้เกิด
เสมหะ >> ไอเอาเสมหะออกมา
่
ึ
่
ผู้ปวยสวนใหญ่มีอาการหวัดน้ามา 3-4 วัน มีไข้ มีอาการไออย่างมาก ระยะแรกจะไอแห้งๆ ต่อมาจงมีเสมหะ การ
ี
ี
ื
ั
ฟงปอดในระยะแรกอาจปกติ เมื่อไอมีเสมหะจะได้ยินเสยง Rhonchi หรอเสยง Coarse crepitation ปกติอาการไอจะหายไป
ึ
ี
ใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าอาการไอยังอยู่นานเกิน 1-2 สัปดาห และกลับมไข้ข้นใหม ไอมีเสมหะสเหลืองเขียว อาจเนองมาจาก
์
ี
ื่
่
ี
ี
ี
่
ี
ื
ี
๊
ื
ิ
่
การตดเช้อแบคทเรยแทรกซ้อน เหนอย และมเสยงวีด โดยรวมมอาการไมเกิน 3 สัปดาห์
การรกษาพยาบาลข้นกับอาการของผู้ปวย โดยทั่วไปจะให้ยาปฏิชวนะ 7-10 วันในรายทีมีเสมหะเปลี่ยนส พักผ่อน
่
ี
ี
ั
ึ
ให้เพียงพอ ให้ความช้นในอากาศทหายใจเข้า ให้ดมน ้ามากๆ
่
ื
ี
ื
่
ั
ิ
้
ขอวินจฉยการพยาบาล
็
- การหายใจไม่เพียงพอเนองจากหลอดลมหดเกรงตัว
ื่
่
่
ึ
ื่
- มีความบกพรองในการแลกเปลี่ยนแก๊สเนองจากอัตราสวนของการระบายอากาศกับการซมซาบไม่สมดุลกัน
ื่
ิ
- อ่อนเพลียเนองจากขาดออกซเจนและการหายใจล าบาก
- กลไกท าให้ทางเดินหายใจสะอาดโล่ง ไมมประสทธภาพเนองจากการตดเช้อและเสมหะเหนยว
ิ
ิ
่
ี
ิ
ื
ื
ี
่
ิ
ี
ื
ู
่
่
่
- แนวโน้มตดเช้อแบคทเรยซ ้าเตมได้งาย เนองจากขาดข้อมลและการชวยเหลือ
ื
ิ
ี
่
ื่
- การดูแลตนเองบกพรอง เนองจากขาดความร ู ้
ั
3. หลอดลมอักเสบเรอรง (Chronic Bronchitis)
้
ื
เช้อแบคทเรยได้แก่ Streptococcus pneumoniae, Hemophilus influenzae, Moraxella catarrhalis ซงท้าให้เสมหะ
่
ึ
ี
ี
ื
ี
ื
เปลียนเปนสเหลือง หรอเขยวการเปลียนแปลงเกิดข้นทหลออดลมโดยเฉพาะตอมเมอก (mucous gland) มขนาดใหญและ
ี
ี
ื
่
็
่
ึ
ี
่
่
่
ื
ึ
เพิ่มจ้านวนมากข้นจาก chronic irritation ท้าให้มการหลั่ง (secretion)ออกมาก การระคายเคองเร้อรงท้าให้เซลล์หลอดลม
ั
ี
ื
ุ
่
ฝอย (bronchiole) และหลอดลมหนาตัวข้น ความยืดหยุนเสยไป ท้าให้หลอดลมตบแคบลง ปจจัยกระต้นทส าคัญคอ ควัน
ี
ึ
ี
ื
ั
่
ี
บุหร โดยสาร mercury benzopyrene ท้าให้ mucous gland hyper-plasia และสารอื่นในบุหรท้าให้ cilia พัดโบกลดลง เสมหะ
ี่
ี่
่
ั
ี
ื
ื
ี
สะสมในทางเดนหายใจ มอาการทางคลินกคอ ไอมเสมหะเร้อรง เปนๆหายๆตดตอกันไมน้อยกว่า 3 เดอนใน 1 ป ระยะ
ื
ี
ิ
ิ
ิ
็
่
ติดต่อนาน 2 ปหรอมากกว่า
ื
ี
ิ
การวินจฉัย โดย ซักประวัติ ตรวจรางกาย โดยการฟงปอด ฟงหลอดลม ว่ามีการตีบแคบของหลอดลมหรอไม่ และ
่
ั
ั
ื
ี
ั
่
ิ
วินจฉัยแยกโรคจากโรคอื่นๆ ที่ท้าให้มีอาการไอ การสงตรวจภาพรงสทรวงอก อาจช่วยวินจฉัยแยกโรคปอดอักเสบได้
ิ