Page 9 - ทั้งหมด
P. 9
์
้
ู
ิ
3) พยาบาลควรมีการดแลจตใจตนเองไม่ให้เกิดอารมณเศราโศกเสยใจรวมไปพรอมกับช่วงระยะสดท้ายและการ
ี
ุ
้
่
ี
่
เสยชีวิตของผู้ปวย
้
่
้
ี
ื
ั
้
้
่
2. การพยาบาลผูปวยระยะทายของชวิตในผูปวยเรอรง
ื
่
2.1 ลักษณะของผู้ปวยเร้อรงระยะท้าย
ั
1) การมีปญหาที่ซับซ้อนและมีอาการที่ยากต่อการควบคุม โดยมักมีอาการและอาการแสดงทางคลินกเปลี่ยนแปลง
ั
ิ
ไปในทางที่แย่ลง
ี
ี
ุ
2) การมความสามารถในการท าหน้าที่ของรางกายลดลงจนน าไปสการมความทกข์ทรมานทั้งด้านรางกาย จตใจ
่
่
่
ู
ิ
ิ
สังคม และจตวิญญาณ
3) การมีความวิตกกังวล ท้อแท้ซมเศรา หมดหวัง และกลัวตายอย่างโดดเดี่ยว รวมไปถึง
ึ
้
็
้
ี
การมภารกิจคั่งค้างทไมได้รบการจัดการก่อนตายจนสงผลท าให้ช่วงระยะสดท้ายของชีวิตเปนวาระแหงความเศรา
ี
่
ุ
่
ั
่
่
โศก
2.2 แนวทางการดแลผู้ปวยเร้อรงระยะท้าย
ั
ู
่
ื
ื
่
1) การดูแลเรองการรบประทานอาหารและน ้า การดูแลความสะอาดของรางกาย การขับถ่ายการพักผ่อนนอนหลับ
่
ั
และการช่วยเหลือให้ผู้ปวยได้รบความสขสบาย
่
ุ
ั
2) การดแลและให้ค าแนะน าแก่ผู้ปวยและญาตในการจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมเพื่อเยียวยาจตใจ ปองกัน
ิ
่
้
ิ
ู
้
อันตราย และปองกันการพลัดตกหกล้ม
่
ี
3) พยาบาลจะต้องมสัมพันธภาพที่ดกับผู้ปวย และต้องเข้าใจปฏิกิรยาของผู้ปวย เพื่อสามารถตอบสนองความ
่
ี
ิ
ต้องการของผู้ปวยได้อย่างถูกต้องและเปนองค์รวม
็
่
ึ
ิ
4) เปนผู้ฟงที่ดี ไวต่อความรสกของผู้ปวย มีการแสดงปฏิกิรยาตอบรบพอสมควร
ู
้
ั
็
่
ั
5) เปดโอกาสและให้ความรวมมือกับผู้ใกล้ชิดของผู้ปวย และครอบครวในการดูแลผู้ปวย
ิ
่
่
่
ั
ิ
ี
ั
่
6) ให้ก าลังใจแก่ครอบครวและญาติของผู้ปวยในการด าเนนชีวิตแม้ว่าผู้ปวยจะเสยชีวิตไปแล้ว
่
ั
ิ
ิ
ิ
2.3 หลักการดแลผู้ปวยเร้อรงระยะท้ายในมตจตวิญญาณ
ู
่
ื
1) การให้ความรก และความเหนอกเหนใจ โดยความรกและก าลังใจจากญาตเปนส่งส าคัญเพราะจะช่วยลดความ
็
ั
ิ
ิ
็
ั
็
กลัว
ึ
่
้
ั
2) การช่วยให้ผู้ปวยยอมรบความตายที่จะมาถึง พยาบาลจงควรสรางสัมพันธภาพและความไว้วางใจให้
่
เกิดข้นกับผู้ปวย เพือเปดโอกาสให้ผู้ปวยได้ระบายความคดและความรสกให้มากทสด
ิ
ึ
ิ
่
ึ
้
ู
่
ุ
ี
่