Page 37 - Demo
P. 37

กระทงั่ การปะทะสนิ้ สดุ ลง ตลอดเวลาน้ันสิ่งท่ีหลุดจากปากของเด็กหนุ่มซึ่ง
มีศักด์ิเป็นเพียงแค่“พลทหาร”ไม่ใช่เสียงร้องโอดโอย โหยหวนดว้ ยความเจบ็ ปวดเสยี ขวญั จากการทตี่ นเองถกู ยงิ หลายนัด หากแต่ถ้อยคาที่ดังก้องกลับกลายเป็น เสียงตะโกนอย่างเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นในอันท่ีจะปฏิบัติหน้าท่ี นักรบเลือดไทยอย่างเต็มกาลังจวบจนลมหายใจสุดท้าย เพื่อให้สมกับการที่เขาได้เข้ามาเป็นทหารนาวิกโยธิน แหง่ ราชนาวไี ทย
การกระทาของพลทหารชลทิตย์ไม่ใช่ส่ิงที่สูญเปล่า เพราะหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น กองทัพเรือได้ทาเรื่อง ขอพระราชทาน“เหรียญกล้าหาญ”และยศเรือตรีให้ แก่เด็กหนุ่มจากสุพรรณบุรีผู้น้ีเพ่ือเป็นเกียรติยศแก่ วงศต์ ระกลู ตอ่ ไป
พลทหารชลทติ ย์ ซงึ่ ภายในเวลาไมน่ านนบั จากนจี้ ะ กลายเป็นอดีตทหารผ่านศึกพิการ ซึ่งจะต้องใส่ขาเทียม ไปดารงชีพอยู่ท่ีบ้านเกิดในจังหวัดสุพรรณบุรี เล่าถึง ประวตั ชิ วี ติ ของตนเองวา่
“ผมเกดิ ทอี่ า เภออทู่ อง จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี เรยี นจบ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ จากโรงเรยี นดอนคา พอ่ กบั แมผ่ ม มลี กู ๒ คน คอื ผมกบั พส่ี าวทชี่ อื่ ประภสั สร พส่ี าวของผม มอี าชพี คา้ ขาย พอ่ ของผมชอ่ื จรญู แมข่ องผมชอื่ อนงค์ เสยี ชวี ติ ไปนานแลว้
เมอื่ ไดร้ บั หมายเรยี กใหเ้ ขา้ รบั ราชการทหาร ผมกไ็ ป จบั ใบดา ใบแดงพรอ้ มกบั เพอ่ื น ๆ บา้ นเดยี วกนั หลายคน พอรู้ว่าจะต้องไปเป็นทหาร ผมก็บอกกับพ่อว่าจะขอ บวชให้พ่อได้เห็นผ้าเหลืองก่อนไปรับใช้ชาติ พ่อก็ตกลง และดใี จมาก
พอสกึ ออกมาไดไ้ มน่ านผมกเ็ ขา้ รายงานตวั และถกู สง่ ไปฝึกที่ศูนย์ฝึกทหารใหม่ของกองทัพเรือ ผู้บังคับบัญชา สูงสุดของผมคนแรกคือ นาวาเอก นพดล สุภากร ผบู้ ญั ชาการศนู ยฝ์ กึ
เมื่อการฝึกใกล้จะแล้วเสร็จ ทหารใหม่มีโอกาสท่ี จะเลอืกไดว้า่จะไปเปน็กาลงัพลของหนว่ยไหนตอนแรก ผมก็ลังเลอยู่ว่าจะสมัครไปประจาฐานทัพเรือสัตหีบ
นาวิกศาสตร์ 36 ปีที่ ๑๐๔ เล่มท่ี ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๔
หรอื กองเรอื ยทุ ธการ หรอื วา่ จะไปอยนู่ าวกิ โยธนิ ผมไม่รู้แน่ว่าหน่วยไหนดีกว่ากัน แต่ก็เคยได้ยินคน
พดูกนัวา่นาวกิโยธนิฝกึหนกัมาก
แตส่ ดุ ทา้ ยผมกต็ ดั สนิ ใจวา่ เราเขา้ มาเปน็ ทหารทงั้ ที
ก็น่าจะเลือกเป็นนาวิกโยธินซึ่งเป็นหน่วยรบของ กองทพัเรอืเพอื่จะไดม้โีอกาสทาหนา้ทใี่หส้มศกัดศิ์รขีอง ลกู ผชู้ ายชาวไทยอยา่ งเตม็ ที่
เมื่อถูกถามว่าเป็นทหารนาวิกโยธินต้องเจอกับ การฝกึ หนกั หนาสาหสั อยา่ งทเี่ คยไดย้ นิ คา รา่ ลอื มาหรอื ไม่
พลทหารชลทติ ย์ ตอบวา่ “จะว่าหนักก็หนักอยู่เหมือนกันแต่ผมคิดว่า น่ีคือ
แบบฉบบัของนาวกิโยธนิไทยซง่ึไดช้อ่ืวา่เปน็หนว่ยกาลงัรบ สะเทนินา้สะเทนิบกทม่ีขีดีความสามารถสงู
คนท่ีเข้ามาเป็นนาวิกโยธินจึงต้องได้รับการฝึกฝน อย่างเข้มข้น เพื่อให้มีความแข็งแกร่ง ทรหด อดทน พรอ้ มทจี่ ะปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ไดใ้ นทกุ รปู แบบ แตก่ ารฝกึ ทหารใหม่ ของผมก็คงเทียบไม่ได้กับการฝึกหลักสูตรรีคอน ซ่ึงเป็น หลกั สตู รการรบพเิ ศษของทหารนาวกิ โยธนิ โดยตรง
จนทุกวันน้ีผมคิดว่าการที่ผมรอดชีวิตมาได้ เป็นเพราะการฝึกซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกองทัพเรือ ทก่ี า หนดไวว้ า่ “รบอยา่ งไรฝกึ อยา่ งนนั้ ”
กอ่ นทจี่ ะลงไปทา งานทภี่ าคใตผ้ มและเพอื่ น ๆ ไดร้ บั การฝึกในลักษณะเดียวกับภารกิจที่เราจะต้องปฏิบัติ โดยเฉพาะการฝึกยิงอาวุธฉับพลันขณะอยู่บนพาหนะ เคลอื่ นทซี่ งึ่ กค็ อื รถจกั รยานยนต์
ผมยังจาคาพูดของผู้หมวดผู้กองที่กรอกหูเกือบ ทกุ วนั วา่ เสยี เหงอื่ ในสนามฝกึ ดกี วา่ เสยี เลอื ดในสนามรบ ยง่ิ ฝกึ มากกย็ งิ่ มนั่ ใจมากซงึ่ กเ็ ปน็ จรงิ อยา่ งนนั้
เพราะหลังจากการฝึกอย่างหนัก ผมก็รู้สึกฮึกเหิม อยากนาสิ่งท่ีฝึกมาไปปฏิบัติจริง ผมจึงขอสมัครไปอยู่ กองพนั ทหารราบที่ ๙ ซงึ่ มที ต่ี ง้ั ปกตอิ ยใู่ นจงั หวดั นราธวิ าส
ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะกาหนดไว้แล้วว่า เด็กหนุ่ม จากสุพรรณบุรีผู้น้ีจะต้องไปรับใช้ชาติใน ดินแดนด้ามขวานทอง เพราะถึงแม้ว่าในตอนแรก เขาจะไม่ได้รับการบรรจุที่กองพันทหารราบที่ ๙
 












































































   35   36   37   38   39