Page 257 - คุณค่า คุณภาพ คุณธรรม ถอดบทเรียนงานประชุมวิชาการ
P. 257
B2-205
19th HA National Forum
ตัวอย่าง 1 ผู้ป่วยได้ Metoprolol จาก 2 โรงพยาบาลผลิตจากคนละบริษัท ให้กินในขนาดที่ต่างกัน คือโรงพยาบาลต้นสังกัดให้ กิน 1 * 1 โรงพยาบาลจุฬาฯให้กิน 1⁄2 * 2 ผู้ป่วยจึงไม่ทราบว่าเป็นยาตัวเดียวกัน ทาให้กินยาวันละ 200 mg ซึ่งเป็น max dose พอดี มีผลข้างเคียงคือมึน ศีรษะบ้างแต่ไม่ถึงกับเป็นลม เภสัชกรได้notify แพทย์ได้ปรับเป็น 200 mg ตามท่ีผู้ป่วยกินอยู่ เภสัชกรได้ให้คาแนะนาว่าเป็นยาตัวเดียวกันให้กิน เพียงตัวเดียว สอบถามว่าผู้ป่วยจะรับยาตัวใดจากโรงพยาบาลจุฬาฯบ้าง และเขียนnote`ให้โรงพยาบาลต้นสังกัดทราบเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาซ้า
ตัวอย่าง 2 ผู้ป่วย on Warfarin จะไปถอนฟัน ญาติหยุดWarfarin ถูก แต่ฉีด Enoxaparine เกิน หลังถอนฟันผู้ป่วยมี bleed ต้องส่ง ER
กลุ่มยาท่ีทาให้ผู้ป่วยต้องมา ER บ่อยอันดับแรกคือ NSAIDS เดิมให้คาแนะนาหลีกเลี่ยงการใช้ NSAIDS เพราะเกิดSodium reten- tionเกิดน้าท่วมปอด โดยไม่ให้ผู้ป่วยซื้อยาแก้ปวดกินเองแต่ผู้ป่วยจาคาว่า NSAIDS ไม่ได้จึงได้จัดทาบัตรเลี่ยงการรับยา NSAIDS เพื่อให้ผู้ป่วยนาไป แสดงให้แพทย์ที่สถานพยาบาลอื่นดู นอกจากนี้การตอบคาถามทางโทรศัพท์และไลน์สามารถช่วยป้องกัน drug interaction ได้ โดยพยาบาลเป็น admin ส่งคาถามให้เภสัชกรพร้อมถ่ายภาพ Clinic note มาด้วย ความร่วมมือในการใช้ยา ( Medication adherence) ของผู้ป่วยก็มีความสาคัญ พบว่าเพิ่มอัตราการนอนโรงพยาบาลจึงต้องทบทวนวิธีกินยาทุกครั้งก่อนกลับบ้าน กรณีตัวอย่าง แพทย์ส่ัง Warfarin 3 mg 1 1⁄2 เม็ด*1 จันทร์ - ศุกร์, 1 เม็ด*1 เสาร์ - อาทิตย์ นัด 1 เดือน ทา med rconcile พบว่าผป.กิน 1 1⁄2 เม็ด*1 2 สัปดาห์ 1 เม็ด*1 2 สัปดาห์ สอบถามผู้ป่วยแจ้งว่า เภสัชแนะนา แต่จาไม่ได้ อ่านฉลากยาไม่เข้าใจ เภสัชจึงบันทึกClinic note แจ้งแพทย์ทราบเพื่อปรับยาตาม dose ที่ผู้ป่วยกิน วิธีการที่ใช้สอนจึงต้องพิจารณาให้ เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละคน“One size does not fit for all”
ผู้ป่วย Heart transplant มีความซับซ้อนต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการใช้ยา เช่น ผิดเวลา ผิดจานวน จึงต้องการความ รว่ มมอื ของผปู้ ว่ ยเปน็ อยา่ งมาก โดยใชค้ า ถามกระตนุ้ ความคดิ วา่ “คนเราจะอยไู่ ดไ้ หม ถา้ ไมม่ หี วั ใจ” สอนผปู้ ว่ ยหลงั ผา่ ตดั โดยใชแ้ ฟม้ แสดงชอื่ ยา แผง ยา เม็ดยา เป็นภาพสีให้เหมือนยาจริง ระยะเวลาที่ใช้ในการสอนจะแตกต่างกันตามการรับรู้ของผู้ป่วยและ care giver เภสัชกรต้องวิเคราะห์ความ สามารถและปัญหาเฉพาะบุคคล เช่น การมองเห็น การได้ยิน ความจาของแต่ละราย บางรายอาจต้องสอนการทา one day dose ต้องค้นหาจุดแข็ง/ ศกั ยภาพของทมี ญาตแิ ละผปู้ ว่ ยเพอื่ ปดิ ชอ่ งวา่ ง คน้ หาผทู้ า หนา้ ทจี่ ดั ยาและนา ยาใหผ้ ปู้ ว่ ยกนิ อาจเปน็ คนละคนเเตต่ อ้ งจา่ ยยาไดถ้ กู ตอ้ ง ตรงเวลา และ ทวนสอบโดยวันที่มา Follow Up ให้จัดยามาให้ดู 2 วันเพ่ือยืนยันว่าจัดยาถูกจริงๆ
สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) 257