Page 369 - คุณค่า คุณภาพ คุณธรรม ถอดบทเรียนงานประชุมวิชาการ

C1-103
19th HA National Forum
บทส่งท้าย
คุณค่า คุณภาพ คุณธรรมใน ไอ ซี ยู ไม่ใช่แค่เรื่องของอุปกรณ์และเทคโนโลยีในการดูแลผู้ป่วยเท่านั้น แต่เป็นการเช่ือมโยงการดูแลทาง จิตใจ และ palliative care อย่างเหมาะสมควบคู่ไปกับ clinical care ตามมาตรฐานการรักษา ซึ่งจะทาให้สามารถสร้างสมดุลในการใช้เทคโนโลยี ที่มีจากัด โดยคานึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (Quality of life) ของผู้ป่วยเป็นสาคัญ
การวัด Quality Improvement (QI) ที่ดีขึ้นจาก palliative care อาจวัดจากข้อร้องเรียน ความไม่พึงพอใจของญาติ เป็นต้น ซึ่งวัดได้ยาก จึงควรจะวัดที่ process indicator (ตัวช้ีวัดกระบวนการทางาน) จะเห็นผลชัดเจนกว่า เช่น ผู้ป่วยย้ายเข้า ไอ ซี ยู อย่างเหมาะสม, Assessment ใน ผู้ป่วย End of life care (วัดจากระดับ pain score), อัตราการทา Family conference ใน ไอ ซี ยู นอกจากนี้ก็สามารถวัดได้ทางอ้อมจากการ แสดงออกของผู้ป่วยและญาติ ผู้ป่วยท่ีจาหน่ายกลับบ้านไปแล้วมีการกลับมาเยี่ยมเยียนเจ้าหน้าท่ี ไอ ซี ยู แสดงให้เห็นการมีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นต้น
ข้อค้นพบใหม่ทีไ่ด้จากเรือ่ง
วีธีการทา Family conference ให้ประสบความสาเร็จ
1. พยาบาลที่แผนกเป็นผู้ประสานงานเพ่ือกาหนดวันทา Family conference ทั้งแพทย์ พยาบาล และครอบครัวผู้ป่วย ให้มีเวลาตรงกัน เนื่องจากพยาบาลท่ีดูแลผู้ป่วยอยู่จะทราบว่าญาติผู้ป่วยมีใครบ้าง ใครเป็นผู้ที่จะสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้ ภายในวันที่ 2-5 ของการเข้าอยู่ใน ห้อง ไอ ซี ยู ของผู้ป่วย ควรมีการทา Family conference อย่างน้อย 1 ครั้ง
2. ในทีมสหวิชาชีพท่ีดูแลผู้ป่วยอยู่ ต้องมีการเช่ือมโยงข้อมูลตกลงให้มีความคิดเห็นที่ตรงกันก่อน เพื่อให้ข้อมูลแก่ครอบครัวผู้ป่วยไปใน ทางเดียวกัน
3. ทา check list หัวข้อที่จะให้ข้อมูลแก่ครอบครัวผู้ป่วยไว้ก่อนว่าอะไรเป็นประเด็นที่ต้องการส่ือสาร และคาถามท่ีต้องการให้ตัดสินใจ เพ่ือจะให้ได้มติในการประชุมครบถ้วน
4. ใช้สุนทรียสนทนา ผู้เป็นแพทย์ควรมีทักษะการฟังที่ดี พูดแต่ข้อมูลที่สาคัญ กระตุ้นให้ญาติผู้ป่วยและพยาบาลที่ดูแลแสดงความคิดเห็น ให้มากที่สุด เทคนิคเช่นนี้ จะทาให้ได้ผลลัพธ์การประชุมท่ีดี และเกิดความเข้าใจได้มากที่สุด เป้าหมายคือ “การทาทุกอย่างที่ผู้ป่วยต้องการ”
5. บันทึกข้อมูลไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เพ่ือเป็นข้อมูลในการพูดคุยในครั้งต่อไป หลังการประชุมอาจทาเอกสาร Consent form ให้ญาติ ผู้ป่วยลงชื่อไว้ด้วย
6. การทา Family conference อาจไม่ได้ข้อสรุปในการประชุมครั้งเดียว อาจต้องมีการท้ิงประเด็นไว้ว่าผู้ป่วยมี Living will แสดง เจตนารมณ์ไว้หรือไม่ ใครจะเป็นผู้ตัดสินใจ และขอคาตอบในการประชุมครั้งต่อไป ไม่เร่งรัดที่จะให้ได้คาตอบในการประชุมครั้งเดียว ซึ่งจะทาให้เกิด บรรยากาศที่ไม่ดีและสร้างความขัดแย้งข้ึนได้
7. ทางานร่วมกับ Palliative Care Team ประสานให้เข้ามาช่วยดูแลผู้ป่วยใน ไอ ซี ยู
8. ทาให้ palliative care เป็น culture ของ ไอ ซี ยู แม้ว่าผู้ป่วยจะรอดชีวิตและจะจาหน่ายกลับบ้านก็ตามให้สอบถามถึงการตัดสินใจ ครั้งต่อไปไว้เพื่อจะได้ปฏิบัติให้ตรงกับความต้องการของผู้ป่วยจริงๆ เมื่อเกิดอาการวิกฤตขึ้นอีก
คาพูดท่ีพึงหลีกเลี่ยงคือ “หยุดการรักษา” “ไม่มีทางรักษา” ให้ใช้คาว่า “ยังให้การดูแลรักษาอย่างเต็มที่ แต่เป้าหมายเปล่ียนไปจาก ทาให้ผู้ป่วยรอดชีวิตเป็นการทาให้ผู้ป่วยอยู่ในระยะสุดท้ายของชีวิตอย่างมีคุณภาพมากที่สุด” เน้นเร่ือง Comfort Care กับการไม่ทอดทิ้งผู้ป่วย
ปจัจัยแห่งความสาเร็จ
การพัฒนาคนเพื่อให้เกิดคุณภาพในการดูแลผู้ป่วย
1. แพทย์และพยาบาลที่ปฏิบัติงานใน ไอ ซี ยู ต้องมีทั้ง Core Competency & Specific Competency เนื่องจากเทคโนโลยีทางการ แพทย์ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วมากในปัจจุบัน ทั้งเรื่องโรค ยา และแนวทางการรักษาใหม่ๆ
2. เพิ่มศักยภาพในหลักสูตรเฉพาะทางมากข้ึน เช่น เฉพาะทางโรคหัวใจ เฉพาะทางไตเทียม เป็นพยาบาล ไอ ซี ยู ต้องมีทักษะในการ ซักประวัติ การประเมินอาการ มีความรู้เร่ือง Early Warning Signs เพื่อการรายงานแพทย์ได้ทันเวลา ป้องกันภาะแทรกซ้อนท่ีจะเกิดกับผู้ป่วย มีความรู้ในการดูแลผู้ป่วย ดู EKG (คลื่นหัวใจ) เป็นรู้สัญญาณเบื้องต้นท่ีบ่งบอกภาวะไตวาย ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart attack) หรือ ภาวะช็อค จากการติดเช้ือในกระแสเลือด (Septic shock) เป็นต้น
3. สร้างทัศนคติที่ดีและมีแรงจูงใจที่ดีในการดูแลผู้ป่วยอาการหนักการพัฒนางานเพ่ือให้เกิดคุณภาพในการดูแลผู้ป่วย
4. มีระบบการ Training แพทย์ พยาบาล โดยเฉพาะทักษะการดูแลผู้ป่วยวิกฤต
5. มีการใช้ CPG (Clinical Practice Guideline), CNPG (Clinical Nurse Practice Guideline) นาแนวทางการดูแลผู้ป่วยและมาตรฐาน
ต่างๆ มาใช้ในการดูแลผู้ป่วย
6. มีการสร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรม เพ่ือนามาปรับระบบการดูแลผู้ป่วยให้ทันสมัยอยู่เสมอ
369 สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน)