Page 54 - คุณค่า คุณภาพ คุณธรรม ถอดบทเรียนงานประชุมวิชาการ
P. 54
C1-200
19th HA National Forum
พระอาจารย์กีรติ ธีรปัญโญ
ในอดีตเป็นหมอรักษาคน ปัจจุบันเปล่ียนมาเป็นพระภิกษุสงฆ์ผู้รักษาธรรม มีจุดเร่ิมต้นจากการถูกถามจากอาจารย์แพทย์ Professor ชาวอเมริกัน ท่ีเป็น Idol ทางการแพทย์ของท่านว่า “นิพพานคืออะไร” หลังจากท่ีสอบติดไปทาบอร์ด Pediatrics ที่อเมริกา ทาให้ฉุกคิดและ ตระหนกั รวู้ า่ ความทกุ ขข์ องคนไขห้ รอื ของมนษุ ยท์ กุ คนนนั้ หนไี มพ่ น้ เรอ่ื งของความเขา้ ใจในโลกและชวี ติ ซงึ่ ในทางพระพทุ ธศาสนาเรามคี า สอนเรอื่ งนไี้ ว้ อย่างชัดเจน นั่นคือการพ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิงหรือที่เรียกว่าพระนิพพาน และได้มาเจอกับพระอาจารย์ชยสาโร เจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ ซ่ึงรู้สึก เลอ่ื มใสทที่ า่ นใชเ้ วลาสว่ นใหญอ่ ยกู่ บั ตวั เอง ไดเ้ รยี นรู้ ไดเ้ พง่ เขา้ ไปทตี่ วั เอง โดยมคี วามสงบเปน็ พนื้ ฐานจนสามารถทจี่ ะเขา้ ใจโลกและชวี ติ ไดด้ กี วา่ คนท่ี เปน็ แพทยซ์ งึ่ อา่ นหนงั สอื มากมาย เปน็ จดุ เปลยี่ นใหห้ นั มาสนใจศกึ ษาหาความรดู้ า้ นพระพทุ ธศาสนา และเปลย่ี นแนวตน้ แบบซง่ึ เดมิ คดิ วา่ เปน็ ครแู พทย์ ผู้รักษาคนและเปล่ียนมาเป็นครูพระผู้รักษาธรรมในที่สุด
คุณค่าของมนุษย์ไม่ได้อยู่ที่การได้เกิดเป็นมนุษย์เท่านั้น มันอยู่ที่ได้พัฒนาศักยภาพทุกๆ ด้านของเรา ท้ังทางด้านร่างกาย สังคม จิตใจ และ ปัญญา ต้องสอดประสานกันเพื่อที่จะเข้าถึงคุณธรรมที่สูงข้ึน การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า มีความพิเศษ ท่านเข้าใจโลกและชีวิตอย่างสมบูรณ์ เรียก ว่าอย่างบูรณาการ อย่างองค์รวม ส่ิงที่เป็นจุดร่วมกันของมนุษย์ทุกคนก็คือ มีความรักสุขและเกลียดทุกข์ แล้วทาไมเราถึงไม่ศึกษาเรื่องเหล่านั้น อย่างรอบด้าน เรียกว่าการทาปริญญาในทุกข์ ไม่เรียนรู้ก็วนอยู่ในกองทุกข์ไม่เห็นท่ีมาท่ีไปของทุกข์ สาเหตุของทุกข์คือกิเลส แต่จะเห็นได้อย่างน้ัน ต้องพัฒนาจิตให้น่ิงพอที่จะเห็นความทุกข์ได้ การฝึกพัฒนาจิตให้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการมีปฏิสัมพันธ์ของกายที่ดี ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ การมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น มีเจตนาที่จะไม่เบียดเบียนคนอ่ืนเป็นพื้นฐานของความสงบ เมื่อเราเข้าใจทุกข์ได้แล้วก็มาศึกษาเรื่องของความสุข เช่น ให้พิจารณาว่า ความสุขทางกายหรือกามสุขว่าการได้มาต้องมีการแสวงหาแย่งชิงซ่ึงกันและกัน ขณะมีอยู่ก็มี
ความรู้สึกว่ามันไม่ม่ันคง เม่ือหลุดไปแล้วก็เกิดความเสียใจความคับแค้นใจ อยากจะกลับไปเสพความสุขแบบเดิมนั้นอีก ความสุขแบบน้ี เจือด้วยโทษและทุกข์ หากเข้าใจจะเห็นโทษและเห็นคุณค่าของการออกจากกามสุข เพราะกามสุขเป็นเหตุให้เกิดกิเลส และกิเลสก็ทาให้เกิด ความทุกข์ การวนเวียนอยู่ในความทุกข์เพราะไม่เห็นอย่างถ่องแท้ การศึกษาพัฒนาชีวิตตามระบบที่พระพุทธเจ้าวางไว้จึงเป็นระบบท่ีแก้ปัญหาที่ ต้นเหตุอย่างแท้จริง
เมื่อมีคนไข้เสียชีวิตต้องบันทึกแบบฟอร์มสาเหตุการเสียชีวิต เช่น ตายเพราะติดเชื้อ ตายเพราะอุบัติเหตุ เป็นต้น ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้ว เหน็ วา่ ไมใ่ ชส่ าเหตขุ องการตายทแ่ี ทจ้ รงิ เพราะถงึ แมว้ า่ จะไมม่ สี าเหตเุ หลา่ นกี้ ต็ อ้ งตายอยดู่ ี สงิ่ เหลา่ นเี้ ปน็ แคป่ จั จยั ทมี่ าเกอ้ื หนนุ เทา่ นนั้ สาเหตแุ ทจ้ รงิ ของการตายคือการเกิดต่างหาก ถ้าเราไม่เกิดเราก็ไม่ตาย จากพุทธประวัติจะเห็นว่าแม้สมณะทูตที่พระโพธิสัตว์เห็นก็คือ แก่ เจ็บ ตาย และสมณะ ก็จริง แต่จุดท่ีทาให้พระองค์ออกบวชจริงๆ ก็คือการได้ทราบว่าพระราหุลเกิด เพราะถ้าไม่มีการเกิดก็ไม่มีการแก่ การเจ็บและการตาย พระองค์จึง ออกแสวงหาโมกขธรรมเพื่อหาทางแก้ปัญหา โดยมุ่งไปที่ต้นเหตุของปัญหา แต่พวกเราเมื่อพบปัญหาจะมักจะแก้เป็นจุดๆ ไป ไม่ได้สาวไปหาสาเหตุ โดยรวมที่แท้จริงของมัน เม่ือปัญหาเกิดมาจากกิเลสหรือความอยาก ทาให้เราทากรรม แล้วเราก็ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดรับผลของกรรมนั้น แล้วทาไมเราไม่แก้ที่ต้นเหตุก็คือการเกิดหรือการอยากเกิด อยากสร้างภพใหม่กันบ้างเล่า ทุกวันน้ีท่ีเราได้อัตภาพมาก็เพราะว่าเราอยากได้มันมา กอ่ นทเ่ี ราเหน็ รปู ทางตากเ็ พราะวา่ เราอยากเหน็ มากอ่ น การทเ่ี ราไดฟ้ งั เสยี งกเ็ พราะวา่ เราอยากฟงั มากอ่ น มนั เปน็ กระบวนการตามธรรมชาตขิ องจติ และ ของกรรม ถ้ายังไม่เบื่อหน่ายหรือเข็ดในทุกข์ อย่างน้อยถ้าเราอยากได้ส่ิงดีๆ ก็ให้สร้างกุศลกรรมดี ก็จะได้มาเสพรับผลสิ่งที่ดีๆ แต่ถ้าสร้างอกุศลกรรม ยอมไดม้ าเสพสงิ่ ทไี่ มด่ ี เรยี กวา่ มารบั วบิ ากหรอื ผลกรรมทที่ า ไว้ เรยี กวา่ เปน็ วฏั ฏะ และการทจี่ ะไดพ้ น้ จากวฏั ฏะนี้ เรม่ิ ตงั้ แตฝ่ กึ การใหท้ านเพอื่ ทจ่ี ะสละ ออกไป ลองฝึกสังเกตตัวเองดูซิว่า เมื่อได้อะไรมาแล้วเก็บไว้ทานคนเดียวความสุขมันมีแค่ไหน แค่ล้ินกระทบความหวาน ความเปร้ียว ความเค็ม สุดท้ายก็ดับไปไม่ยั่งยืน ถ้าคิดย้อนไปเราย่ิงเสียดาย เคยไปทานอาหารดีๆ เมื่อไม่ได้ทานก็เกิดทุกข์ใจ แต่หากเราสละสิ่งน้ันออกไป สังเกตดูเวลา เราให้แก่คนอื่น จิตใจของเราเป็นจิตใจท่ีสะอาด ได้กาจัดความโลภ ทาให้จิตใจเราเบิกบาน ขณะเป็นผู้ให้เรามีความสุข ให้เสร็จแล้วจิตใจก็ผ่องใส ตามระลึกเมื่อไหร่จิตใจก็มีความสุข
ได้ทานแล้วก็มาดูเร่ืองศีล การรักษาศีล 5 เป็นพ้ืนฐานของมนุษย์ ถ้าผิดศีล 5 เท่ากับเราขาดทุนเพราะเราเกิดมาเป็นมนุษย์ได้ก็ด้วยศีล 5 คนเราเกิดมาด้วยพ้ืนจิตอันนี้ ได้ศีล 5 แล้ว อาทิตย์ละหน่ึงวันหรือทุกวันพระก็มารักษาศีล 8 กันดูบ้าง ฝึกไม่หาความสุขจากเรื่องทางเพศ จากการกิน จากการดูหนังดูละคร จากการแต่งตัว จากการนอน เราก็จะมีเวลามากข้ึนในการพัฒนาจิตใจให้สูงข้ึน สมัยนี้เราเหินห่างการศึกษาพัฒนาจิตใจของ ตัวเองไปมาก ทั้งที่ควรเป็นวิถีชีวิตของชาวพุทธ ท่ีได้พัฒนาจิตใจ พัฒนาทาน ศีล ภาวนา อย่างต่อเนื่อง คนที่ฝึกมองจิตของตัวเองอยู่เสมอจะ เข้าใจว่าการผิดศีลเพียงน้อยนิดมีผลในชีวิต เทคโนโลยีดึงความสนใจเราไป เม่ือผิดศีลเราไม่ได้มีเวลาอยู่กับอยู่กับตัวเอง เพื่อสังเกตว่าการผิดศีล ส่งผลกระทบจิตใจเราเป็นอย่างไร เลิกงานกลับบ้าน เปิดทีวี เล่นอินเตอร์เน็ต ล่อตัวเองไม่ให้เห็นจิตใจ ต้องพยายามหาความวุ่นวายเพื่อจะได้ลืมว่า ตัวเองทาอะไรไว้บ้าง จิตก็ยิ่งห่างออกไปจากการพัฒนาคุณภาพ จิตก็หยาบลง โดยเฉพาะคนที่ทาผิดศีลเยอะๆ เขาจะไม่กล้าอยู่กับตัวเอง เพราะถ้า อยู่กับตัวเองเขาก็จะเห็นความผิดของเขา คนเราก็เร่ิมจากหลอกตัวเองก่อน แล้วก็ไปหลอกคนอื่น ยิ่งหลอกมากๆ จิตใจมันก็ย่ิงตกต่า
54 สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน)