Page 13 - C:\Users\wasan\Desktop\วารสาร PDF\
P. 13
ธรรมะกับชีวิตประจ าวัน : เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน
“เราคือนวัตกรรมจากความประพฤติซ ้า ๆ ของตัวเอง ดังนั น จงระวังความคิด (ลบ) มันจะกลายเป็น
การกระท้า จงระวังการกระท้า มันจะกลายเป็นนิสัย จงระวังนิสัย มันจะกลายเป็นบุคลิกภาพ”
ทุกสิ่งที่เราคิด พูด ท า หรือสร้างสรรค์นวัตกรรมขึ้นมา “กระบวนการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ นจาก ‘การเรียนรู้’ เพราะ
ล้วนมีผลกระทบต่อผู้อน ดังนั้น ไม่ว่าจะท าอะไรก็ตาม ต้องนึกถึง ความรู้จะช่วยให้เกิด ‘ความเชื่อ’ หรือความศรัทธาใน
ื่
อกเขาอกเรา เพราะโดยธรรมชาติแล้ว มนุษย์ล้วนต้องการเสพ ศักยภาพของตนเอง จากนั นความเชื่อจะช่วยให้เกิดเป็น
สิ่งดี มีคุณภาพ เลิศหรูกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารอร่อยๆ ‘แรงจูงใจ’ ใฝ่กระท้า” ดังเช่น เด็กนักเรียนคนหนึ่งอยากเรียนเก่ง แต่
่
่
เครื่องเสียงดีๆ มือถือรุ่นใหม่สุดจ๊าบ จนถึงบ้านหลังโตโออา ไม่เคยอ่านหนังสือสักเล่ม หรือหญิงสาวอ้วนตุ๊ต๊ะที่ปรารถนาเรือน
ตั้งอยู่บนท าเลทอง ผลผลิตหรือนวัตกรรมเหล่านี้ ไม่สามารถ ร่างทรงเสน่ห์ แต่ยังไม่ทิ้งนิสัยกินตลอดเวลา ทั้งสองคนนี้คงไปได้
ย้อมแมวขายกันได้ในระยะยาว สังเกตง่ายๆก็คือ “ของดี ไม่ถึงฝัน หากไม่ปรับเปลี่ยนตัวเอง เช่นเดียวกับคนที่อยากร่ ารวย
ิ
มีคุณภาพ ของจริงของแท้ ต้องทนต่อการพสูจน์ และทนต่อ เป็นเศรษฐี แทนที่จะมุมานะท างาน เก็บออมสะสมทรัพย์สิน
กาลเวลา”เฉกเช่นหลักธรรมค าสอนทางพทธศาสนา ที่ยืนยง แต่กลับใช้ชีวิตแบบชนิดที่ต้องมานั่งจ่ายหนี้บัตรเครดิตตลอดเวลา
ุ
มาอย่างยาวนาน เพราะทนทานต่อการพสูจน์ นับตั้งแต่ เพราะไม่ยับยั้งชั่งใจในการใช้จ่าย แบบนี้บันไดเศรษฐีคงไม่ทอด
ิ
ุ
พระพทธเจ้าตรัสรู้กฎแห่งธรรมชาติที่ใต้ต้นโพธิ์ แก่นแท้ของ มาหา และโปรดอย่าเชื่อและมั่นใจตัวเองเกินไปนัก เพราะหากสิ่ง
ธรรมทั้งหมดก็คือ “การดับทุกข์” ภาษาพระเรียกว่า “อริยสัจสี่” ที่เราเคยท ามาตลอดมันถูกต้อง ป่านนี้มันคงส าเร็จไปแล้ว
ใจความก็คือ “ถ้าดับทุกข์ได้ เราก็จ ะม ี ความศรัทธาเชื่อมั่นในตัวเองเป็นสิ่งดี ยกเวนแต่เราจะเชื่อมน
้
ั่
ความสุข” พระพทธองค์ทรงชี้บอกหนทางแห่งการดับทุกข์ ในสิ่งผิด แล้วตัวเองก็หลงไปยึดติดถือมั่นกับความเชื่อนั้นอย่าง
ุ
ื่
เพอให้เราเปลื้องตนออกจากความทุกข์ ไม่ใช่ให้เราจมจ่อมแช่ ไมลืมหูลืมตา ครั้น “เมอเหตุผิด...ผลย่อมผิด” ตามไปด้วยเป็นธรรมดา
ื่
่
อยู่กับความทุกข์ หรือยอมจ านนกับโชคชะตา โดยข้อปฏิบัติ
เบื้องต้นง่ายๆ ก็คือ “หาสาเหตุแห่งทุกข์ให้เจอ” ซึ่งสอดคล้อง
กับที่นักจิตวิทยาสมัยใหม่เชื่อว่า... มเรื่องเล่าต่อกันมาเป็นโจ๊กข าขันที่ “แฟรงก์ โคช”
ี
“อยากเปลี่ยนผลลัพธ์ ก็ต้องเปลี่ยนสาเหตุให้ได้ เขียนไว้ในวารสารของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ดังนี้...
ั
นั่นเพราะเหตุเปลี่ยน...ผลย่อมเปลี่ยน ในคืนเดือนมืด ท่ามกลางมหาสมุทรอนเวิ้งว้าง
อยากเปลี่ยนชีวิต ก็ต้องเปลี่ยนความคิดให้ได้ เรือรบสองล าถูกมอบหมายให้ซ้อมรบในทะเล ซึ่งมีพายุโหม
นั่นเพราะเปลี่ยนความคิด...ชีวิตเปลี่ยน” กระหน่ ารุนแรงนานหลายวัน บนเรือมีผู้บังคับบัญชาคอยเฝ้า
สังเกตอยู่บนหอบังคับการอย่างแข็งขันตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ า
เราไม่อาจเปลี่ยนคนภายนอกได้ตราบใดที่ยังไม่ เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ค่อยแจ่มชัดนัก เพราะเต็มไปด้วยม่าน
สามารถเปลี่ยนคนที่อยู่ภายในตัวเองบุคลิกภาพเป็นตัวตน หมอกที่ลงจัด
ภายนอก ความคิดเป็นตัวตนภายใน ดังที่ “ไอน์สไตน์” กล่าวไว้
ื่
ว่า “คนโง่หรือคนบ้าเท่านั้น ที่มัวเสียเวลาท้าซ้้าๆ ด้วยวิธีการ ดังนั้น กัปตันจึงต้องอยู่บนหอบังคับการ เพอคอย
เดิมๆโดยหวังว่ามันจะให้ผลลัพธ์ที่ต่างออกไป” สังเกตเหตุการณ์ต่าง ๆที่จะเกิดขึ้น ขณะที่เรือแล่นฝ่าเกลียวคลื่น
ธรรมชาติสอนเราอยู่เสมอด้วยวิธีง่ายๆ เพียงแค่เปิดใจ จู่ ๆ เสียงยามรักษาการณ์ก็รายงานขึ้นว่า “มีแสงมาจาก
สังเกต เช่น ปลูกต้นมะม่วง ผลมันก็ต้องเป็นมะม่วง เป็นไปไม่ได้ ทิศทางกราบขวาของหัวเรือครับ” กัปตันถามไปว่า “มันมุ่งมา
ุ่
เลยที่ผลจะออกมาเป็นเงาะ ทุเรียน หรือล าไย ฉะนั้น ข้างหน้าหรือถอยไปข้างหลัง”“มันพงตรงมาทางเรา” ยาม
ั
หากต้องการเปลี่ยนผลลัพธ์ในชีวิต เราก็ต้องเปลี่ยนเมล็ดพนธุ์ รักษาการณ์ตอบ “ดูเหมือนมันก้าลังจะชนเรือของเราครับ” กัปตัน
ี่
ความคิดทอยู่ภายในตัวเรา จึงออกค าสั่ง ด้วยเสียงเฉียบขาด “ให้ส่งสัญญาณบอกเรือล้าที่มี
กระบวนการเปลี่ยนนั้นต้องประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ แสงนั้น ให้เปลี่ยนทิศทาง 20 องศา”แต่กลับได้รับสัญญาณตอบ
หลายส่วนร่วมกัน ดังที่ “ทะไล ลามะ องค์ที่ 14” พระผู้เป็นดุจ กลับมาว่า ให้เรือของกัปตันเปลี่ยนทิศทาง 20 องศาแทน
มหาสมุทรแห่งปัญญาของชาวทิเบต กล่าวไว้ว่า
ี
วารสารศาลเยาวชนฯจังหวัดสุพรรณบุร กรกฎาคม – กันยายน 2563 11