Page 6 - C:\Users\wasan\Desktop\วารสาร PDF\
P. 6
ที่ Tanzanian Albinism Society มีมนุษย์เผือก 8,000 คน
ซึ่งรวมผู้ชาย ผู้หญิงและเด็ก แต่เชื่อว่ายังมีอกจ านวนมากที่ยัง
ี
ไม่รู้จักศูนย์ช่วยเหลือนี้ หรือบางคนเลือกที่จะหลบภัยในที่
ส่วนตัวมากกว่า มีคนเผือกจากศูนย์ประมาณ 200 คนที่
ท างานตามร้านอาหาร ท าสวน ท าร้านเสื้อผ้าของตัวเอง และ
ไปเรียนหนังสือ แต่ที่ที่ปลอดภัยที่สุดก็คือศูนย์แห่งนี้
ั
เพราะสามารถปกป้องพวกเขาจากอนตรายได้
(มาเรียม คนเผือกชาวแทนซาเนีย เล่าเรื่องราวรันทด จากการ ช่างภาพบอกว่า “คนไหนที่มีโอกาสมีการถ่ายทอด
ั
ื่
ถูกเพื่อนบ้านและพรรคพวกบุกเข้ามาตัดแขน เพอน าไปขาย โรคเผือกทางพนธุกรรม พวกเขาจะได้รับการแนะน าให้อยู่ที่นี่
ื่
ให้แก่หมอผีซึ่งต้องการใช้ในการท ายา) เพอความอยู่รอด” ดังนั้นจึงมีเด็กหลายคนที่หนีออกจากบ้าน
มาเรียม เป็นช่างทอผ้าในแทนซาเนีย เธอเล่าว่า มีกลุ่ม และมาอยู่ที่นี่ บางคนถูกครอบครัวทิ้งมา เพราะมองว่า การมี
ั
คนร้ายบุกเข้ามาในบ้านของเธอ และใช้มีดสปาร์ตาตัดมือและ ลูกเผือกนั้น สร้างความอบอายให้กับครอบครัว โดยครอบครัว
แขนของเธอ เพื่อน าไปขายให้แก่หมอผี เมื่อเธอสามารถหันหน้า ไหนที่มีลูกเผือกมักจะได้รับการดูแลไม่ดี โดยให้กินมื้อ อดมื้อ
ไปมองกลุ่มคนร้ายได้ เธอก็พบชายคุ้นหน้าคนหนึ่งอยู่ในกลุ่ม และไม่ให้การศึกษา บางเผ่าอาจจะฆ่าลูกเผือกทันทีที่เกิดมา
ิ
ื่
คนร้าย "เขาเป็นเพอนบ้านฉันไม่ต่ ากว่า 10 ปี เขาสนิทสนมกับ หรือเอาไปใช้ในพธีบวงสรวง พวกเขาเชื่อว่าหากไปสัมผัสกับ
ฉันและครอบครัวมาก เขาเป็นคนที่ถือมีดสปาร์ตาและตัดแขน ผิวคนเผือก อาจจะท าให้ติดโรคเผือกหรืออาจล้มป่วยได้จึง
ของฉัน จากนั้นก็ส่งชิ้นส่วนแขนของฉันให้เพื่อนของเขา" รังเกียจไม่อยากเข้าใกล้ และการมาอยู่ที่ศูนย์ท าให้พวกเขามี
ื่
มาเรียมเล่า ปัจจุบันมาเรียมใส่แขนเทียมช่วยท าให้เธอ เพอนในแบบเดียวกัน แม้จะมีศูนย์ที่ให้การช่วยเหลือคนเผือก
ทอผ้าได้ เธอบอกว่ารู้สึกว่ามีคุณค่าที่สามารถท างานได้ แต่ Ana เชื่อว่า การศึกษาเป็นทางเดียวที่จะลบอคติของผู้คน
ั
ี
เหมือนกับตอนที่มีแขน มาเรียม เป็นเพยงหนึ่งในคนเผือก ที่มีต่อคนเผือก และจะท าให้พวกเขาเสี่ยงอนตรายน้อยลง
หลายพันคนที่ใช้ชีวิตอย่างหวาดผวาในแทนซาเนีย โดยคนเผือก และควรจะมีความยุติธรรมกับพวกเขาด้วยการมีบทลงโทษ
ซึ่งมีผิวซีดเพราะผิวหนังไม่มีเม็ดสี ถูกฆ่าอยู่เป็นประจ า ส าหรับมนุษย์นักล่า เธอหวังว่า ภาพเหล่านี้จะท าให้ผู้คนได้
ในแทนซาเนียและหลายประเทศในแอฟริกา เพราะหมอผี เปิดหูเปิดตา เพื่อให้มีการตระหนักในเรื่องนี้มากขึ้น และ
เชื่อว่า ยาที่ท าจากชิ้นส่วนร่างกายของคนเผือกจะท าให้ผู้ที่ใช้ เชื่อว่า ความหวังนี้จะส าเร็จถ้าคนปกติอย่างเราช่วยกันท าให้
ยาเหล่านี้มีโชคด้านความรัก ชีวิต และธุรกิจ เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในปี 2008 มีทีมช่วยเหลือ
ทีมแรกที่เข้ามาที่นี่ และพวกเขาก็กลับมาอีกในทุก ๆ ปี เพื่อให้
การช่วยเหลือในเรื่องมะเร็งผิวหนัง โดยได้ช่วยเหลือมาแล้ว
กว่า 1,000 คน
(ศูนย์หลบภัยของมนุษย์เผือก ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเผือก
นับร้อยที่มีปัญหาทางร่างและจิตใจ)
ช่างภาพ Ana Palacios วัย 43 ได้ไปเยี่ยมชมศูนย์ หลบภัย
Kabanga ในแทนซาเนียมาแล้ว 3 ครั้ง ระหว่างปี 2012 และ 2016 เพื่อ (Epafroida หนึ่งในคนเผือกที่มีความใฝ่ฝันอยากเปิดธุรกิจ
หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชะตากรรมของ มนุษย์เผือก และ สิ่งทอในตลาดใกล้เคียง เพราะท้องตลาดควรมีเสื้อผ้า
ถ่ายทอดสู่สายตาคนทั่วไป ซึ่งทางรัฐบาลแทนซาเนียเอง ได้ตระหนัก ที่หลากหลาย โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่สามารถปกป้องผิวของคน
ถึงเรื่องนี้ จึงได้ตั้งศูนย์คุ้มครองพิเศษส าหรับคนเผือกหลังจากพวกเขา เผือกจากรังสียูวีได้) (เพราะผิวคนเผือกนั้นมีเมลานินน้อย
หนีออกมาจากแหล่งค้ามนุษย์ได้และคนที่ไม่ใช่คนเผือกหลายคนก็ หรือไม่มีเลย จึงท าให้พวกเขาต้องเสี่ยงกับการเป็นโรคมะเร็ง
อยู่ที่นี่ด้วย หากโดนแสงจากดวงอาทิตย์มากๆ เด็กๆ จึงมักใส่แว่นและ
หมวกเพื่อปกป้องตัวเอง)
วารสารศาลเยาวชนฯจังหวัดสุพรรณบุรี กรกฎาคม – กันยายน 4