Page 110 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 110
นาเดี้ยนหรือชาวฝรั่ง หลวงพ่อไปให้เขา ให้อะไรบ้าง ให้รู้จักสวดมนต์ ให้รู้จักนั่งสมาธิ ให้รู้จักเดิน
จงกรม และรู้จักใส่บาตร รู้จักทอดกฐิน รู้จักวันสงกรานต์ รู้จักประเพณีบวชนาค หลวงพ่อให้หลาย
อย่าง แล้วก็สอนให้ฝรั่งตีกลองตีฆ้องด้วย ตุ๊บต่อง ๆ ตุ๊บตึง ๆ ตีผิดตีถูกคนก็หัวเราะกัน มันมีกลอง
ยาวแล้วก็มีฉิ่งมีฉาบ เวลาแห่กฐินก็จะมีการตีกลอง คนไทยก็ไม่มี ก็ให้ชาวแคนาเดี้ยนนั่นละตีกลอง
และก็ตีฉาบ ตีฉิ่ง แห่กองกฐิน ช่วงสงกรานต์ก็มีแห่นางนพมาศ หลวงพ่อไปสอนให้เขาได้เรียนรู้ว่า
วัฒนธรรมไทยเขาทากันอย่างนี้ แล้วก็ท าบุญใส่บาตรท าอย่างนี้ แล้วก็กรวดน้ าอุทิศบุญกุศลท า
อย่างนี้ ฝรั่งนี่ โอ้โฮ มีสิ่งดี ๆ อยู่ในพุทธศาสนามากมาย หลายคนก็อยากจะเปลี่ยนเป็นชาวพุทธ
หลวงพ่อบอกว่า “ไม่ได้ ๆ คุณนับถืออย่างไรก็นับถืออย่างนั้น ไม่ต้องเปลี่ยนศาสนา เปลี่ยนใจของ
คุณดีกว่า” เปลี่ยนใจของคุณ เปลี่ยนยังไง เปลี่ยนมาสวดมนต์ เปลี่ยนมาเดินจงกรม เปลี่ยนมานั่ง
สมาธิ แล้วก็ชักชวนกันท าความดีให้มาก ๆ เรียกว่าสร้างอริยทรัพย์ ถ้าหากว่าเราท าได้อย่างนี้ นั่น
ุ
ละคือความดี ไม่ต้องเปลี่ยนศาสนา ทกคนก็มีศาสนาของตัวเองก็ไม่เป็นไรให้นับถือไว้ แต่มาสวด
มนต์มาเดินจงกรมมานั่งสมาธิ อันนี้มาสร้างอริยทรัพย์พิเศษ หลวงพ่อมาที่นี่หลวงพ่อไม่ต้องการ
อะไร
ชาวแคนาเดี้ยนเกิดความซาบซึ้งอย่างมาก พูดว่า หลวงพ่อครับ ผมได้มาเดินธุดงค์ที่ดอยอิน
์
ทนนทกับหลวงพ่อแล้ว ผมเห็นคนไทย โอ้ สี่ห้าหกพันเป็นหมื่นคนก็มี ซาบซึ้งใจมาก หลวงพ่อท าได้
อย่างไร ทาไมคนถึงมาเดินธุดงค์กับหลวงพ่อมากขนาดนี้ ผมเคยเห็นแค่ร้อยสองร้อย อันนี้เป็นหมื่น
ึ
โอ้โฮ อะเมซซิ่ง (Amazing) บางคนได้แสดงความรู้สก น้ ามูกน้ าตามันไหลออกมา เกิดความซาบซึ้ง
เกิดความประทับใจ นี่หลวงพ่อไปให้เขาจริง ๆ เพราะฉะนั้น เขาก็เลยมาช่วยงานหลวงพ่อ เป็น
์
อาจารยสอนสมาธิ เดี๋ยวนี้ขยายไปที่ประเทศอเมริกา แล้วก็ไปออสเตรเลย นี่คือผลงานหลวงพ่อ
ี
ู่
ท่านไปอยที่แคนาดานี่ ๒๐ กว่าปี เพราะฉะนั้น ผลงานอันยิ่งใหญ่นี้ฝากไว้ให้แก่พวกเราทั้งหลายได้
สานต่อ ถ้าเราเป็นศิษย์หลวงพ่อก็ต้องพากันสวดมนต์ พากันนั่งสมาธ หมั่นสรางอริยทรัพย์ให้แก่ตน
ิ
้
เดี๋ยวนี้ไวรัสโคโรน่าแพร่ระบาด ต่างคนต่างมาดูตัวเอง การดูตัวเองก็คือรักษาตัวเอง เวลาจะ
ไปข้างนอกถ้าไม่จ าเป็นก็อย่าไปเลย ถ้าไปแล้วมันอาจจะไปมาติดเข้ามาถึงบ้าน เข้ามาบ้านแล้วถ้า
ไม่ล้างมือไม่ล้างหน้า มันจะติดครอบครัวของเรา ติดสามีติดภรรยาติดลูกติดพ่อติดแม่ โอ้ ล าบาก
กันใหญ่ เพราะฉะนั้น จ าเป็นต้องใส่หน้ากาก การใส่หน้ากากมันก็ต้องมีพิถีพิถันด้วย บางคนใส่ผิดนี่
ใส่หลวม ๆ นี่ไม่ได้ เขาบอกว่าต้องใส่ให้รัด ๆ ใส่ให้แน่นเลย ถ้าหากว่าใส่แน่น ๆ เปอร์เซ็นต์เชื้อโรค
ที่จะเล็ดลอดเข้าสู่รางกายของเราก็น้อย แต่ถ้าใส่หลวม ๆ มันก็มีช่องไวรัสเข้าได้เขาว่าอย่างนั้น เขา
่
มีการวิจัยที่ประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว
๑๑๐