Page 145 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 145

พระพุทธเจ้าได้  ถ้าหากว่าเขาบ าเพ็ญบารมีไม่ถึงก็เป็นไปไม่ได้  พระพุทธองค์ได้บ าเพ็ญบารมีสร้าง


               มาหลายภพหลายชาติ  สร้างแล้วสร้างอีก  ทาแล้วท าอีก  บางครั้งก็พลาดพลั้งไป  บางครั้งก็ส าเร็จ
               บางครั้งก็ไม่ส าเร็จ  ท าให้เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารนี้  เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานบ้าง  เป็นเปรต

               อสุรกายบ้าง เป็นสัตว์นรกบ้าง เกิดเป็นมนุษย์ เกิดเป็นเทวดาบ้าง ก็หมุนเวียนกันอย่างนี้ เรียกว่า

               “วัฏวน” คือ เวียนเกิดเวียนตายอย่างนี้

                     ทีนี้เมื่อเรารู้ชัดเจนแล้วว่า  การเวียนเกิดเวียนตายนี้หาความแน่นอนไม่ได้  บางครั้งเราก็คิด

               เบื่อหน่ายไม่อยากจะเกิด อันนี้เราก็ต้องสร้างบุญกุศลเอาเอง พระพุทธเจ้าก็ตรัสทางแล้วว่า “ทาน

               มัย ศีลมัย ภาวนามัย” ทานคือการเสียสละแบ่งความสุขของตนให้แก่คนอื่น ให้อภัยทานก็เป็นบุญ

               ให้วัตถุสิ่งของก็เป็นบุญ  ให้ค าแนะน าพร่ าสอนแต่ละค าที่ดี  ๆ  ให้แก่กันและกันก็เป็นบุญ  ให้วัตถุ

               สิ่งของก็เป็นบุญ  เพราะว่าให้คนอื่นนั้นเบิกบานใจและใจของเราก็พร้อมที่จะสละด้วย  เมื่อใจของ

               เราสละออกไป เราให้คนอื่นมีความสุข เขาได้รับแล้วก็ปลื้มใจ ดีใจ มีความสุขใจไปด้วย อันนี้คือการ



                                                                                                ่
               สละ สละทั้งสติปัญญา สละทั้งค าพูดค าจาของเรา เวลาเราทาผิดเวลาเราท าถูก เราก็รู้วาเราทาถูก
                     ู้
               เราก็รว่าท าผิด เราก็ขอขมาโทษซึ่งกันและกัน มันก็เป็นบุญอีก เพราะว่าเราไม่โกรธกัน ใจมันไม่ขุ่น
               ใจมันเบิกบาน ใจมันไม่กังวลใด ๆ ทงสิ้นมันก็เป็นบุญ อย่างที่เคยพูดไว้เสมอว่า “จิตใสเป็นบุญ จิต
                                                 ั้
               ขุ่นเป็นบาป” ทีนี้ศีลมัย คือการรักษาศีล ศีลตั้งแต่ข้อที่ ๑ ถึงข้อที่ ๕ คือการรักษาชีวิตของตัวเองให้

               ปลอดภัย หรือว่าเส้นทางเดินของชีวิต พระพุทธเจ้าตรัสว่า ศีลนี้จะท าให้คนมีความสุข “สีเลนะ สุ

               คะติง ยันติ”  ศีลจะท าให้เกิดความสุขเพราะเราไม่เบียดเบียนใคร เราไม่โขมยของใคร เราไม่ท าให้

                                 ั้

               คนอื่นเดือดร้อน ทงสามี ทั้งภรรยา เราไม่โกหก เราไม่หลอกหลวง เราไม่ดื่มสิ่งของที่ทาให้ตัวเอง
               หลงลืมสติหรือว่าขาดสติไป  หรือวาเป็นคนที่เพ้อเจอไป  เราก็ดูแลรักษาร่างกายของเราดีมันก็เกิด
                                                ่
                                                               ้

               “สีเลนะ สุคะติง ยันติ” มันก็ท าให้เกิดความสุข “สีเลนะโภคะสัมปะทา” ศีลทาให้สุขภาพร่างกาย
               ของเราดี เพราะอะไร เพราะเรารักษาสุขภาพของเราดี เนื่องจากว่าเรารู้ว่าการรับประทานอาหาร

                                                                                       ้
               ประเภทใดมันเป็นโทษ การดื่มเครื่องดื่มประเภทใดมันเป็นโทษ เราก็งดเราก็เวน มันก็ได้ประโยชน์
               เพราะเรารู้วารางกายของเราเป็นโทษ เราก็ไม่ดื่ม เราก็ไม่รับประทาน เมื่อเป็นเช่นนี้ร่างกายของเรา
                           ่
                             ่
               ก็ดี มันก็เป็นร่างกายที่ดี “โภคะ” คือร่างกายของเราก็ดี “สีเลนะ สุคะติง ยันติ” เมื่อร่างกายดี มี

                                       ุ
               ความสุข  มันก็ดับความทกข์ความกังวลไป  นี่คืออานิสงส์ของศีล  ภาวนามัย  บุญเกิดขึ้นเพราะการ
               สวดมนต์ เพราะการนั่งสมาธ เพราะการเอาสิ่งดี ๆ เข้าสู่จิตทุกวัน ๆ เช่น เราท าวัตรสวดมนต์เย็น
                                          ิ
               อย่างนี้หรือว่าสวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธ เรียกได้ว่าภาวนาเอาสิ่งที่ดี ๆ เข้าสู่จิต อย่างว่าพุทโธ
                                                        ิ
                                                                                                     ี
               พุทโธ สัมมาอะระหัง นะมะพะทะ ยุบหนอพองหนอ ว่าไป เราก็ระลึกถึงสิ่งที่ดี ๆ อยู่เรื่อย ๆ เรยกว่า


                                                          ๑๔๕
   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150