Page 219 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 219

คับแคบ นั่นคือไม่พอดี แต่ถ้าหากว่ากางเกงผู้ใหญ่ ให้เด็กไปลองใส่มันก็ไม่พอดีอีกแหละ มันหลวม

               เด็กก็ต้องพอดีอย่างเด็ก ผู้ใหญ่ก็ต้องพอดีอย่างผู้ใหญ่ เราจะเอามาตรฐานเดียวกันไม่ได้

                                        ้
                     เพราะฉะนั้น การสรางบ้านสร้างเรือนหลังใหญ่ ๆ มันก็เอาเสา เอาคอนกรีต ปูน เหล็ก มัน
                                                                                                   ่
               ใหญ่เกินไปมันไม่ดี ถ้าหากว่ามันพอดี เขาก็ให้ค านวณได้ว่าเอาขนาดนี้พอดีแล้ว ถ้าเหล็กเทานี้ ปูน
               เท่านี้ ทรายเท่านี้และเขาก็ผสมปูนจะฉาบ จะเทคอนกรีต มันก็ผสมอีกแบบหนึ่ง ฉาบก็ผสมอีกแบบ

               หนึ่ง ความพอดีมันอยู่ที่เวลาไหนมันดีก็คือฤกษ์ดี เวลาดีมันอยู่ที่ความพอดี ของแต่ละท่าน วันนี้ดี

               แล้ว มันคือดี

                     เพราะฉะนั้น จึงบอกไม่ได้ว่าความพอดีมันอยู่ตรงไหน อยู่ที่ความพอดีของแต่ละท่าน มันไม่มี

                                                                                      ื
               มาตรฐานเดียวกัน  อย่างพระส าเร็จเป็นพระอรหันต์  บางองค์ก็ส าเร็จในท่ายน  บางองค์ก็ส าเร็จใน
               ท่านั่ง บางองค์ก็ส าเร็จในท่านอน บางองค์ก็ส าเร็จในท่าเดิน มันก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้น ช่วงใดมัน

               พอดีก็ช่วงนั่นแหละมันคือความส าเร็จ          การที่หลวงปู่มั่นได้อธิบายให้หลวงพ่อของเราที่ว่า

               มัชฌิมาปฏิปทานี้คือความพอดี เพราะฉะนั้น บางองค์เดิน ๒ ชั่วโมง บางองค์เดิน ๕ ชั่วโมง ดังนั้น

               มันเป็นความพอดีของทาน เราเดินได้แค่ ๓๐ นาที ถือว่าพอดีของเรา เพราะฉะนั้น จะเอามาตรฐาน
                                     ่
               อย่างคนที่แข็งแรงเท่านั้น ยกน้ าหนักได้ ยกสิ่งของได้ เรามีร่างกายน้อย ๆ อ่อนแอ เราจะยกเหมือน

               คนตัวใหญ่ไม่ได้ โบราณเขาบอกว่า “เห็นช้างขี้อย่าขี้ตามช้าง” เขาหมายความว่า ช้างมันขี้กองใหญ่

               เราจะไปเบ่งทั้งตัวทั้งก้อนให้ใหญ่ ๆ เหมือนกับช้างขี้ไม่ได้ เราจึงต้องรู้ประมาณของตัวเอง

                     เมื่อหลวงพ่อได้รับค าแนะน าจากหลวงปู่มั่น  ก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง  ท่านจึงได้มาเดินจงกรม

                                                                       ี่
               นั่งสมาธิ  ในที่สุดท่านก็เลยเอามาตรฐานนี้มาเปิดสอนสมาธิทเรียกว่า  “สัมมาสมาธิ”  คือ  สมาธิท ี่
               ถูกต้อง เปิดเป็นสถาบันพลังจิตตานุภาพ ให้เดิน ๓๐ นาที นั่ง ๓๐ นาท อันนี้เป็นมาตรฐานสากล
                                                                                  ี
                     ่
               ท่านวาอย่างนี้ ใครจะไปปฏิบัติมากกว่านั้นก็ย่อมได้ เดินจงกรมมากกว่านี้ก็ย่อมได้ แต่ว่าต้องไปท า
                                                                                      ั
               เอง ใครจะเดินมากเท่าไหร่หรือนั่งเท่าไหร่ อันนั้นอยู่ที่เราไปท าเอง แต่ในหลกสูตรนี้ท่านจะบอกไว้
                                                                                     ่
               ว่าเดิน ๓๐ นาที นั่ง ๓๐ นาที ถือว่าพอเหมาะพอดีอย่างมากก็ ๑ ชั่วโมง ทานว่าอย่างนี้พอเหมาะ
               พอดีแล้ว เพราะว่าบางคน โอ้ ๓๐ นาที ปวดขาเหลือเกิน ขอ ๑๕ นาที ได้ไหม ก็เลยมีหลักสูตรวิ

               ทันตสาสมาธิ ๑๕ นาที อันนี้ก็เป็นหลักสูตรหนึ่งของหลวงพ่อมอบให้แก่คณะผู้บริหาร บางคนไม่มี

               เวลา หลวงพ่อก็เลยให้นั่งสมาธิแค่ ๑๕ นาที บางแห่งก็เลื่อนขึ้นเป็น ๓๐ นาท บางทีดูเหมือนว่ามัน
                                                                                      ี
               น้อย เขาว่ายังงั้น เพราะฉะนั้น หลวงพ่อให้มาเป็นมาตรฐานในการปฏิบัติ เดินจงกรม ๓๐ นาที และ

                           ี
               นั่ง ๓๐ นาท แล้วก็บอกว่าถ้าใครจะท ามากกว่านั้นก็ย่อมได้ แต่ว่าในหลักสูตรให้ท าตามกันคือ เดิน
               ๓๐ นั่ง ๓๐ นาที ก็คงจบแค่นี้ สาธ สาธ สาธุ อนุโมทามิ
                                               ุ
                                                    ุ

                                                          ๒๑๙
   214   215   216   217   218   219   220   221   222   223   224