Page 289 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 289

เป็นค าสุภาพเรียกว่า วาจาไม่โกหก ไม่หลอกลวง ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่พูดค าส่อเสียด นินทา อันนี้ก็ถือ

                                                               ื่
                              ิ
               ว่าเป็นวาจาสุจรต  สุดท้ายข้อที่  ๕  ก็มาเกี่ยวกับเรองการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเอง  เครื่องดื่ม
                           ี่
               ประเภทใดทท าให้สุขภาพไม่ดี  เราเคยดื่ม  เคยทานแล้วสุขภาพไม่ดี  เราก็ควรจะละเว้น  อาหาร
               ประเภทใดเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วมันไม่เข้ากับธาตุของตัวเอง มันท าให้ท้องเสีย ท้องรวง หรือวา
                                                                                                ่
                                                                                                        ่
               มันท าให้สุขภาพของเรา หรือว่ามันจะต้องสังเกตเอาเองว่าอาหารนี้มันเข้ากับธาตุของเราได้ไหม ถ้า

               ไม่ได้เราก็ไม่รับประทาน  ละก็พิจารณาอาหารประเภทอื่น  แต่ถ้ามันไม่มีจริง  ๆ  เราก็ควรจะ

               รับประทานพอเหมาะพอประมาณ  เพื่อให้ชีวิตด ารงอยู่ได้  นั่นหมายความว่า  พระพุทธเจ้าให้ดูแล

               ร่างกายของตัวเอง เพราะฉะนั้น ศีลนี้ท าให้ “สีเลนะ สุคะติง ยันติ” เมื่อสุขภาพร่างกายดีมันก็เกิด

               ความสุข “สีเลนะ โภคะสัมปะทา” เกี่ยวกับสุขภาพร่างกายของเราแข็งแรงแน่นอน “สีเลนะ นิพพุ

                                                            ่
               ติง ยันติ” ก็ท าให้ดับความทุกข์ความกังวลเรื่องรางกาย
                     ทีนี้มันก็จะสามารถปฏิบัติสมาธิได้ดี  ถ้าโรคภัยไข้เจ็บมันมีอยู่ในร่างกายส่วนใดก็ตาม  มันก็

               เกี่ยวเนื่องกับจิตใจด้วย เพราะว่าใจมายึดร่างกายนี้ เมื่อร่างกายเกิดโรคภัยไข้เจ็บบางส่วนหรือส่วน

               ใดก็ตามของร่างกาย  มันก็ต้องกังวล  ทีนี้ถ้าหากว่าเราไม่เข้าใจ  หรือวาเข้าใจนั่นแหละแต่มันท าใจ
                                                                                ่
               ไม่ได้ มันก็ต้องเกิดอาการทุกขเวทนาเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น มารักษาใจของเราด้วย รักษากายของเรา

                                        ี่
               ด้วย  รักษากายคือให้ผู้เชยวชาญคือหมอดูแล  ส่วนใจของเรามารักษาเอง  ก็พยายามนึกถึงพระ
               พุทธคุณ คือคุณของพระพุทธเจ้าหรือสวดบท “อิติปิโส ภะคะวา” พุทธคุณหรือนึกถึงพุทโธ ๆ อยู่

                                                                                                       ี่
                                        ื่
               เรื่อย ๆ การที่เราสวดนี้ เพอให้จิตของเราสงบไม่ฟุ้งซ่าน ไม่คิดวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ ทท า
               ดังนี้ก็เพราะว่า  มันจะกังวล  กังวลก็เท่ากับให้  “สารอะดรีนาลีน”  คือสารแห่งความทุกข์นี่มันหลั่ง

               ออกมา ก็จะท าให้เลือดเสีย ลมเสีย มันเลยเกิดสารพิษหลั่งออกมา มันก็ซ้ าเติมให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ

               อีก

                     เพราะฉะนั้น  เราก็รักษาใจของเรา  ไม่ไปสร้างจุดที่มันกระตุ้นจุดหลั่งสารพิษออกมา  ต้อง

               พยายามสร้างจิตให้มันเกิดการกระตุ้น “สารเอ็นโดรฟีน” ก็คือความปีติ ทางภาษาบาลี “ปีติ” คือ

               ความเอิบอิ่ม  ความเบิกบานใจ  ท าให้มันเกิดปีติให้ได้  ถ้าท าให้เกิดปีติได้เมื่อไหร่  มันก็จะบรรเทา

               ความทุกขเวทนาลงไปได้ นี่หมายความว่าพระพุทธเจ้าคงพรรณนาถึงเรื่อง “พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ

                                                                                             ่
               สังฆรัตนะ”  แล้วพุทธบริษัททั้งหลายที่นั่งฟังอยู่นั้น  ก็เกิดความปลื้มปิติเบิกบานใจวา  ได้ฟังพระ
               ธรรมค าสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ต่างก็สรรเสริญพระพุทธเจาว่าเป็นศาสดาผู้ประกาศสัจธรรมอัน
                                                                        ้
               แท้จริง ก็ยอมรับนับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มาเป็นที่พึ่งที่เคารพบูชาสืบต่อมา






                                                          ๒๘๙
   284   285   286   287   288   289   290   291   292   293   294