Page 290 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 290
ทีนี้ผู้ที่มีบุญบารมีวาสนาก็ได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคลเป็นจ านวนมาก หลังจากพระพุทธเจา
้
ได้สาธยายรัตนปริตรไปแล้ว นี่ก็บ่งบอกวาความบริสุทธิ์ใจนี้ คือเราท าใจของเราให้บริสุทธิ์นี่ก็เรื่อง
่
ยากเหมือนกัน เหมือนน้ าขุ่นกว่าจะท าให้มันใสก็ต้องท าให้มันนิ่ง เรายิ่งไปก่อกวนมัน ท าให้มัน
กระเพื่อมอยู่เรื่อย ๆ มันก็ยากนักที่จะตกตะกอนให้มันใสได้ เพราะฉะนั้น ใจของเราก็เหมือนกัน เรา
คิดฟุ้งซ่าน คิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ กว่ามันจะสงบ กว่ามันจะนิ่ง มันก็ยากเหมือนกัน แต่ทุกคนก็ท าได้ ถ้า
หากว่าฝึกมัน เพราะฉะนั้น น้ าที่มันกระเพื่อมอยู่บ่อย ๆ นี่มันก็ยากนักที่จะท าให้ใส ก็ต้องท าให้มัน
นิ่ง อย่างเราตักน้ าขุ่น ๆ มาใส่แก้วไว้ก็ตั้งไว้ สัก ๑ วันหรือ ๒ วัน ๓ วันก็ตกตะกอน นั่นหมายความ
ว่ามันนิ่ง เมื่อมันนิ่งมันก็ตกตะกอน ตกตะกอนมันก็ท าให้ใส ใจก็เหมือนกัน ถ้าหากว่าเราสวดมนต์
บ่อย ๆ นั่นแหละฝึกจิตไม่ให้ฟุ้งซ่าน จิตจดจ่ออยู่ที่บทสวดมนต์ มันก็ท าให้จิตนิ่ง นิ่งอยู่ที่ไหน นิ่งอยู่
ที่บทสวดมนต์ พอมากเข้า ๆ จิตที่เคยกังวลเรื่องโน้นเรื่องนี้ มันก็จางหายไป ๆ กลายเป็นจิตเป็น
สมาธิ มันก็ท าให้จิตของเราตกตะกอน พอตกตะกอนมันก็เลยใส ก็เลยเกิดความรู้สึกว่าเบิกบาน สด
่
ชื่น โล่ง โปร่งสบาย นี่คือการสวดมนต์เป็นอยางนี้
ิ
ุ
เพราะฉะนั้น วันนี้ก็ขอเชิญทุกท่านได้ร่วมกันสวดรัตนปรตรร่วมกัน สาธ สาธ สาธุ อนุโมทามิ
ุ
ธรรมะบรรยาย
๑๑๕
ท่านเจ้าคุณ พระราชปัญญาวชิโรดม
๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๔
ี่
ั้
ปลื้มใจ ดีใจ สุขใจ การทท่านทงหลายได้สวดมนต์นี้ ถือว่าท่านได้รู้จักคุณค่าของตัวเองมาก
่
ยิ่งขึ้น ท่านรู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชย์ ทุกคนมีเวลาเทากัน คือ ๒๔ ชั่วโมง ไม่ขาดไม่เกิน เท่ากัน
แต่ใครจะใช้เวลาในแบบไหน จะใช้เวลานี้กับใคร ใช้เวลานี้กับอะไร ถ้าคนที่รู้จักชีวิตของตัวเอง เขา
จะใช้เวลาส่วนหนึ่งมาสวดมนต์เหมือนกับพวกเรานี่แหละ เพราะทุกครั้งที่เราสวดมนต์นั้น เราได้
สร้างมหากุศลอันยิ่งใหญ่ ๑) ให้แก่ตัวเอง ๒)ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งในโลกนี้และโลกอื่นด้วย
เช่นโลกทิพย์ อย่างที่เราเริ่มต้นสวดเราก็อันเชิญ ไม่ใช่ เทวดา นาค ครุฑ คนธรรพ์ ยักษ์ เชิญมาเยอะ
เลย ตอนนี้อันเชิญมา ขออันเชิญเหล่าเทพเจ้าทั้งหลาย ซึ่งสถิตอยู่โดยรอบจักวาล ไม่ใช่น้อย ๆ ใน
รอบจักรวาล ในสวรรค์ชั้นกามภพก็มา รูปภพ ภุมมเทวดา ซึ่งสถิตอยู่ในวิมานหรือยอดภูเขา และ
๒๙๐