Page 105 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 105

เครื่องมือที่จะประดิษฐ์  เพราะฉะนั้น  ความสามารถตรงนั้นก็เลยลดลงไป  ด้านสติปัญญาคือความ

               เป็นเลิศนี่ สมองมี แต่มันโดนบล็อกไว้ให้คิดได้จำกัด เพราะฉะนั้น ไม่มีช้างตัวไหน เสือตัวไหน ชะนี

               ตัวไหน  กวางตัวไหน  เก้งตัวไหน  หมูตัวไหน  สุนัขตัวไหน  หรือว่าสัตว์เดรัจฉานประเภทไหนที่มัน

               สร้างเครื่องอำนวยความสะดวก        เวลาเจ็บป่วยก็ไม่มีสัตว์ประเภทไหนสร้างโรงพยาบาลขึ้นมาได้

                                      ็
                                    ้
               หรือว่าพัฒนาตัวเองใหเปนหมอรักษาโรค  ถ้าจะเดินทางไปที่ไหนมันก็ไม่มียานพาหนะสร้างขึ้นมา
               ได้ ทั้ง ๆ ที่เขาก็มีสมองเหมือนกัน ท่านบอกว่า เขามี แต่ว่ามีบางสิ่งบางอย่างโดนบล็อกไว้ ก็คือ

               กรรมนั่นเอง ให้มีลิมิต (จำกัด) เท่านั้นเท่านี้

                     แต่มนุษย์เรานั้นมีความสามารถและความเป็นเลิศในตัวแต่ถูกเก็บไว้      ไม่ออกมาใช้และไม่

               พัฒนาให้มันดียิ่งขึ้น มันจึงเป็นเหมือนกับมีดในฝัก ท่านว่าอย่างนี้ เพราะฉะนั้น เราก็ต้องมาพัฒนา

               มัน พัฒนาอย่างไร ท่านก็บอกว่า สวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธินี่ละ เมื่อเจอปัญหาอะไร เราสงสม
                                                                                                      ั่
               พลังจิตไว้มาก ๆ ก็เหมือนสะสมความรู้ไว้มาก ๆ เรียนไปเถอะ ประถม อนุบาล มัธยม มหาวิทยาลัย

               เมื่อมีความรู้มาก  ๆ  มันก็คิดแก้ปัญหาได้ดี  มันจะอ่านได้  มันจะเขียนได้  มันจะพูดได้  แล้วมันก็

               พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ นี่คือศึกษาไว้ก่อน พอถึงความจำเป็น มันก็ต้องใช้ได้ เพราะฉะนั้น สมาธิของเรานี่

               มันจะเป็นกรองอารมณ์  พอกรองได้ที่มันก็แยกแยะอารมณ์ที่เข้ามาสู่จิตของเราได้  เมื่อแยกแยะ

               เรื่องอะไรจะไปเอาอารมณ์ที่ไม่ดีเข้ามา มันจะทำให้เสื่อมสมรรถภาพ หรือว่าลดคุณภาพสมองของ

               เราลดลงไป มันเป็นเหมือนกับสิ่งที่จะไปทำให้สมองของเราลดคุณภาพ เพราะฉะนั้น เรามาเสริมมัน

               เสริมมันให้มันดี การเสริมก็คือการทำสมาธิการสวดมนต์นี่แหละ จะไปเสริมศักยภาพสมองของเรา

               ที่มีอยู่นี้ให้ปราดเปรื่องยิ่งขึ้น

                                            ็
                     ความสามารถกับความเปนเลิศในตัวของเราต้องพัฒนา  เพอให้เปลี่ยนจากปุถุชนคนธรรมดา
                                                                           ื่
               กลายเป็นกัลยาณชนได้ นี่คือการพัฒนา กัลยาณชนคือ “คนดี” รู้จักแยกแยะอะไรดีอะไรไม่ดี หรือ

               ว่าอะไรชั่วอะไรดี เราแยกแยะได้ แล้วก็พัฒนาตัวเองให้เข้าสู่ระบบการเป็นผู้แยกแยะ ถ้าหากว่าทำ

               ได้ เขาก็จะเลือกเอาอารมณ์ที่ดีเข้าไป มันก็จะทำให้อารมณ์นั้นเป็นอารมณ์ที่ใส อารมณ์แห่งความ

                             ่
               เบิกบาน หรือวาอารมณ์แห่งความสุข ทีนี้เมื่อคิดการคิดงานมันก็คิดได้ดี เพราะเป็นอารมณ์ดี แต่ถ้า
                                                                     ์
               อารมณ์บูดล่ะ อารมณ์หงุดหงิดล่ะ อารมณ์เสียล่ะ อารมณเบื่อล่ะ คิดการคิดงานได้ดีไหม แน่นอน
               ไม่ดี เพราะว่าอารมณ์นั้นมันเป็นพิษ อารมณ์มันไม่ดี เพราะฉะนั้นต้องแก้ไขด้วยการสวดมนต์นี่ละ

                                                                ี
               ไปเคลียอารมณ์ หลวงพ่อใช้คำว่าเคลียอารมณ “เคลย (Clear)” แปลว่า กำจัด ชะล้างอารมณ์ที่ไม่
                                                          ์
               ดีนั้นออกไปแล้วก็มาเสริมด้วยอารมณ์ดี การกลั่นกรองอารมณ์ของเรานี่จงจะเกิดประสิทธิภาพ เมื่อ
                                                                                  ึ
               เกิดประสิทธิภาพมากเข้า ๆ อารมณ์ดีก็จะเพิ่มมากขึ้น ๆ ทีนี้การทำการทำงานก็จะมีประสิทธิภาพ



                                                          ๑๐๕
   100   101   102   103   104   105   106   107   108   109   110