Page 108 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 108

๐๔๔                                              ธรรมะบรรยาย

                                                                   ท่านเจ้าคุณ พระราชปัญญาวชิโรดม
                ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔




                                             ั
                     เจริญพรทุก ๆ ท่าน วันนี้วนที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ แล้ว วันคืนล่วงไป ๆ บัดนี้เราทำ
               อะไรอยู่  ก็ต้องตอบว่าสวดมนต์กับวัดเทพเจติยาจารย์  ท่านใดยังไม่ได้สวดก็ชวนกันนะ  การสวด

               มนต์ถือว่าเป็นสมาธิภาวนา เป็นการปฏิบัติบูชา เราต้องเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าให้พวกเรานี่ปฏิบัติ ๒

               อย่าง ๑) อามิสบูชา บูชาด้วยวัตถุสิ่งของมีดอกไม้ ธูป เทียน ข้าวปลาอาหารที่เขาจัดสำรับ เรียกว่า

               บูชา ๒) ปฏิบัติบูชา คือการสวดมนต์ การรักษาศีล การนั่งสมาธิ การเดินจงกรม อันนี้เรียกว่าปฏิบัติ

               บูชา  ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านสรรเสริญการกระทำอย่างนี้  จะทำให้จิตของเราได้รับการพัฒนาสูงยิ่งขึ้น

               เพราะว่าทุกครั้งที่เราสวดนั้นมันจะได้พลังจิต ยิ่งถ้ารู้ความหมายของบทสวด โอ้โฮ นี่เยี่ยมเลย แต่

               ปัจจุบันในกูเกิ้ล อยากรู้เรื่องบทสวดมนต์บทไหน เปิดดู โอ๊ย ออกพรึ่ด ๆ เลย อาจารย์กูเกิ้ล เขาเก่ง

               อยากรู้เรื่องอะไรเปิดดูได้ พลจักรรัตนสูตรมีไหม มี จุลไชยยปกรณ์มีไหม มี อาฏานาฏิยปริตรมีไหม

               มี ธชัคคสูตรมีไหม ธัมมจักรมีไหม อนัตตลักขณสูตรมีไหม มหาสมัยมีไหม มี เปิดดูได้ อยากจะดู

               อยากจะรู้เรื่องอะไร เปิดดูเลย

                     ทีนี้การสวด  ถ้าหากว่าเราแปลมันก็จะทำให้ใช้เวลานาน  แต่ถ้าหากว่าสวดไม่แปล  เราต้อง

                      ่
               เข้าใจวาเราสวดให้แก่พวกอมนุษย์ฟัง อมนุษย์มีใครบ้าง ก็คือ ภูตผีปีศาจ พวกนาค ยักษ์ คนธรรพ์
               ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ พระอินทร์ พระพรหม ไปนู่น ท่านเหล่านี้มีกายทิพย์ เมื่อมีกายทิพย์ ตาของ

               เขาก็ทิพย์ หูก็ทิพย์ เรียกว่าเป็นเครื่องมือที่เยี่ยมที่สุด เราก็มี แต่ว่าเราโดนปกปิดไว้ เพราะฉะนั้น

               เวลาเราหลับนี่  จิตของเราก็จะไปอยู่ในกายทิพย์  จิตก็จะเป็นจิตทิพย์อยู่แล้ว  แต่ว่ามันโดนปกปิด

               ปกปิดด้วยอะไร ปกปิดด้วย “กิเลส” หลวงพ่อใช้คำว่า “จุดดำ” มันทำให้จิตของเรานี่มัว ๆ มืด ๆ

               หมอง ๆ มันก็เลยทำให้ไม่ผ่องใส เมื่อไม่ผ่องใสนี่มันก็ไม่เห็นร่างกายละเอียดของเรา ทั้ง ๆ ที่มันมี

               แต่เราก็มองไม่เห็น จะเห็นก็ต่อเมื่อเราหลับแล้วก็ฝันว่าไปโน่นไปนี่ อันนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนี่ง

                     การที่ผู้ทำสมาธิสวดมนต์ประจำอย่างชาวธิเบต ชาวอินเดีย เขาจะสวดมนต์จริง ๆ สวดจัง ๆ

               สวดมาก ๆ แล้วก็ทางฝ่ายมหายานก็สวดมนต์เยอะมาก เพราะว่าทำให้สติมันตื่น เมื่อสติตื่นมันก็ได้

               สมาธิ  พอได้สมาธิก็ผลิตพลังจิต  พอผลิตพลังจิตมันก็เกิดกระแสจิต  พอเกิดกระแสจิตก็แยกแยะ

               อารมณ์ได้ มันก็จะเป็นลักษณะนี้ แต่ที่มันแยกแยะไม่ได้ ก็เหมือนเรามีความรู้น้อย มันก็อ่านผิด มัน



                                                          ๑๐๘
   103   104   105   106   107   108   109   110   111   112   113